posttoday

ประยุทธ์ย้ำยึดความยุติธรรมเก็บภาษีมรดก

16 กันยายน 2557

นายกฯระบุไม่ต้องกังวลเก็บภาษีมรดก ยันไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน มั่นใจรัฐบาลพาเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น

นายกฯระบุไม่ต้องกังวลเก็บภาษีมรดก ยันไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน มั่นใจรัฐบาลพาเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น

เมื่อวันที่ 16 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องของการเก็บภาษีมรดกกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา และ อย่าไปกังวล เพราะรัฐบาลบอกแล้วว่าจะไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ต้องมีมาตรการยกเว้นไม่ใช่ทุกคน เป็นเรื่องของกฎหมาย ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะไปรีดภาษีจากใครที่มีรายได้น้อย

"เราต้องมีเกณฑ์ใครมีรายได้เท่านี้จะต้องเสียภาษีเท่าไหร่ ส่วนกรอบระยะเวลาว่าจะต้องภายในสิ้นปีนี้หรือไม่ ยังไม่รู้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณา แต่ประเด็นสำคัญให้ความยุติธรรมทุกคน นอกจากนี้เรื่องที่รัฐบาลเปิดเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล นั้นเป็นเรื่องของความทันสมัย เพราะเรามีปัญหาความล่าช้า ดิจิทัลคือการปรับเทคโนโลยี ปรับการติดต่อสื่อสารให้มันดีขึ้น"พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงแนวทางการของเศรษฐกิจขณะนี้ว่า ได้มีแผนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศโดยเฉพาะภาคการส่งออกที่ยังคงมีปัญหาอยู่ในปัจจุบัน ทั้งในเรื่องของภาวะต้นทุนที่สูงจากค่าแรงค่าแรงขั้นต่ำ ที่หากเปรียบเทียบกับในประเทศเพื่อนบ้านที่ได้ผลผลิตที่ใกล้เคียงกันนั้นแต่ต้นทุนของประเทศไทยสูงกว่า ทำให้เหล่านักลงทุนนั้นเลือกที่จะซื้อขายแลกเปลี่ยนกับประเทศอื่นๆจึงต้องมีแผนที่จะพัฒนาสินค้าในภาคการส่งออกให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น มีความหลากหลายและแตกต่างจากประเทศอื่นๆอย่างชัดเจน รวมถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่มีความแปลกใหม่ไปจนถึงการเป็นนวัตกรรมของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของคุณภาพหรือบรรจุภัณฑ์ต่างๆก็ตาม

อีกทั้งในเรื่องของการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ยังคงสูงอยู่นั้น เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการทำให้สินค้าส่งออกนั้นมีราคาต้นทุนที่สูงเกินกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีต้องการที่จะพัฒนามาตรฐานดังกล่าวนี้เพื่อที่จะเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค่าทรงออกนั้นให้เหมาะสมกันทั้งต้นทุนและผลตอบแทนด้วย เช่น การแปรรูปยางพาราที่ไม่พึงกระทำแค่ส่งออกเป็นยางพาราดิบ แต่ควรที่จะแปรรูปเป็นอย่างอื่นที่สามารถแปรรูปได้ หรือพัฒนาบรรจุภัณฑ์ นวัตกรรม ทำให้ประเทศอื่นๆต้องการเพียงแค่ยางพาราของประเทศไทยเพียงเท่านั้นเพื่อเพิ่มราคาสินค้าส่งออกได้อย่างเหมาะสม

ซึ่งการพัฒนาสินค้าที่จะส่งออกนั้น นายกรัฐมนตรีได้กำหนดที่จะพัฒนาผลิดผลทางการเกษตรที่เป็นปัญหาอยู่ก่อนอย่าง ข้าว ยางพารา มันสัมปะหลัง เพื่อที่จะลดปัญหาให้กับเกษตรกผู้ผลิต

เมื่อถามว่า มองไปในไตรมาสข้างหน้ามั่นใจไหมว่าจะพาเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น นายกฯ กล่าวว่า ต้องได้ พยายามทำให้ได้ ต้องช่วยกันหลายส่วน ไม่ใช่รัฐบาลไม่ใช่นายกฯ แต่เป็นเรื่องของรัฐ เอกชน ประชาชน ต้องร่วมมือกัน ไม่ใช่ต่างฝ่ายต่างเรียกร้องกันไปกันมาแล้วจะทำอย่างไร ต้องเอางบประมาณมาใช้จ่าย กู้มา งบประมาณปีหน้า เรามาใช้หนี้เงินกู้อีก เราใช้งบประมาณหลายหมื่นล้านเพื่อมาใช้หนี้ หนี้เงินกู้เก่า ถ้าครั้งนี้มากู้อีกสุดท้ายก็จะมีแต่เงินกู้ใช้หนี้เท่านั้น เงินงบประมาณบริหารประเทศไม่มี