คนจนรอดภาษีมรดก

สรรพากรแจงภาษีมรดกไม่กระทบชาวนา คนจน เร่งถกกฤษฎีกา ก่อนคลอดกฎหมาย

นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า การเก็บภาษีมรดกตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะไม่ส่งผลกระทบต่อคนยากจนและผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับมรดกตกทอด โดยกฎหมายจะมีการกำหนดว่ามรดกที่ผู้ให้หรือผู้รับต้องมีมูลค่าเท่าไร ถึงจะเข้าข่ายต้องเสียภาษีมรดกให้กับกรมสรรพากร

“กรณีที่ชาวนาได้รับมรดกเป็นที่นาไม่กี่ไร่ ไม่ต้องเสียภาษีมรดกอย่างแน่นอน การออกกฎหมายเก็บภาษีมรดก ต้องไม่กระทบกับการกระจายรายได้ฐานราก ซึ่งเป็นนโยบายที่ คสช. ให้ความสำคัญ เพื่อให้คนจนหรือผู้มีรายได้น้อยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น กรมสรรพากรจึงไม่อยากให้คนจนหรือผู้มีรายได้น้อยกังวล เพราะการกำหนดมูลค่าของมรดกที่ผู้ให้หรือผู้ได้รับต้องมีมูลค่าสูงระดับหนึ่ง ถึงต้องเสียภาษีมรดก”นายประสงค์ กล่าว

สำหรับรายละเอียดของการจัดภาษีมรดกนั้น กรมสรรพากรอยู่ระหว่างการหารือกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อแลกเปลี่ยนแง่มุมต่างๆ กันอย่างละเอียด เพื่อให้การจัดเก็บภาษีมรดกสร้างความเป็นธรรมในสังคม ให้ผู้มีรายได้มากต้องเสียภาษีมาก เพื่อกระจายรายได้ไปยังผู้ที่มีรายได้น้อยกว่า โดยจะมีการสรุปในไม่ช้านี้

นายประสงค์ กล่าวต่อไปว่า แนวทางการเก็บภาษีมรกดที่มีการหารือกัน มีทั้งการเก็บภาษีมรดกจากกองมรดก โดยให้เสียภาษีก่อนที่จะแบ่งให้กับผู้รับมรดก โดยจะมีการกำหนดว่ากองมรดกต้องมีมูลค่าเท่าไรถึงจะต้องเริ่มเสียภาษีมรดก นอกจากนี้ยังเก็บภาษีมรดกจากผู้ที่ได้รับ จะมีการกำหนดว่าผู้ที่รับมรดกมูลค่าเกินเท่าไรถึงต้องเสียภาษีมรดก

ทั้งนี้ การเก็บภาษีมรดกมีหลายแนวทาง แต่ละแนวทางมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน การเก็บภาษีจากกองมรดกแม้จะทำได้ง่าย เก็บภาษีได้มาก แต่ไม่เป็นธรรมกับผู้ที่ได้รับมรดก เพราะทุกคนต้องเสียภาษีเท่ากันไม่ว่าจะได้รับมรดกมากหรือน้อย ขณะที่การเก็บภาษีมรดกจากผู้รับ จะเป็นธรรมกับผู้เสียภาษีมากกว่า แต่การจัดเก็บจะยุ่งยาก และเม็ดเงินภาษีที่เก็บได้จะน้อยกว่าเก็บภาษีจากกองมรดก