posttoday

ซีไอเอ็มบีไทยเชื่อกนง.คงดอกเบี้ยถึงสิ้นปี

13 มีนาคม 2557

ซีไอเอ็มบี ไทย คาด กนง.ตรึงดอกเบี้ยนโยบาย 2% จนกว่าการเมืองจบ เพราะเศรษฐกิจไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะวิกฤต

ซีไอเอ็มบี ไทย คาด กนง.ตรึงดอกเบี้ยนโยบาย 2% จนกว่าการเมืองจบ เพราะเศรษฐกิจไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะวิกฤต

นายอมรเทพ จาวะลา หัวหน้าส่วนวิจัยเศรษฐกิจและตลาดการเงิน สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% และเมื่อรวมกับการปรับลดดอกเบี้ยช่วงปลายปี 2556 ที่ปรับลดไป 0.25% ถึงตอนนี้ดอกเบี้ยนโยบายลงมาแล้ว 0.50% ซึ่งขณะนี้มีหลายสำนักมองว่าดอกเบี้ยจะปรับลดลงได้อีกนั้น สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทยมองว่าจะไม่เห็นการปรับลดดอกเบี้ยอีกในปีนี้ เนื่องจากยังไม่ใช่ช่วงดอกเบี้ยขาลง ยกเว้นว่าเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ สำนักวิจัยฯ มองว่า เศรษฐกิจไทยยังไม่เข้าสู่วิกฤต การปรับลดดอกเบี้ย 2 ครั้งที่ผ่านมา ต้องการกระตุ้นการใช้จ่าย ลดภาระดอกเบี้ยจากปัญหาหนี้ครัวเรือนเท่านั้น นอกจากนี้ หากปัญหาการเมืองจบ เศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็ว และมีโอกาสได้เห็นดอกเบี้ยปรับขึ้นได้ในช่วงปลายปี

นายอมรเทพ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยมีความอ่อนแอของอุปสงค์ในประเทศที่ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจในการจับจ่ายซื้อของ ในขณะที่ผู้ลงทุนก็รอความชัดเจนจากแนวโน้มทางการเมือง นอกจากนี้ ภาครัฐบาลเองก็ประสบปัญหาด้านความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยเฉพาะงบลงทุนที่จำเป็นต้องเลื่อนออกไป

นอกจากนี้ การส่งออกก็ไม่สามารถเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ ด้วยปัญหาโครงสร้างสินค้าส่งออกของไทยที่อาศัยเทคโนโลยีต่ำ ขณะที่ตลาดโลกเปลี่ยนไปหาสินค้าที่มีเทคโนโลยีสูง อีกทั้งการฟื้นตัวของสหรัฐฯ ก็เปลี่ยนจากการเน้นการบริโภคเป็นการลงทุน ซึ่งไทยไม่มีความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออกสินค้าทุนมากนัก ด้วยเหตุนี้ เศรษฐกิจไทยจึงเข้าสู่ภาวะการชะลอตัวที่รุนแรงต่อเนื่องจากปลายปีก่อน ทางคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. จึงปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 2.00% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

“หากเทียบการปรับลดดอกเบี้ยในอดีต ทางกนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพียง 0.50% คือช่วงน้ำท่วมปลายปี 2554 ช่วงมีปัญหาการส่งออกตามเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวปลายปี 2555 และล่าสุดเมื่อเศรษฐกิจไทยชะลอตัวพร้อมมีความเสี่ยงจากการเมืองปลายปี 2556 แต่หากเป็นความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่เกิดจากการชะลอตัวอย่างรุนแรง ทางกนง. จะลดดอกเบี้ยมากกว่านั้นมาก เช่น ช่วงปี 2550 และ 2551 คำถามคือ ความเสี่ยงในการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจจีนมีสูงแต่ทางกนง.จะมีกระสุนพอหรือไม่” นายอมรเทพ กล่าว

สำนักวิจัย จึงคาดว่า ทางกนง. อาจจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยอีก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจากปัญหาการชะลอตัวด้วยปัจจัยทางการเมือง แต่จะเก็บมาตรการทางการเงินไว้เพื่อรับมือวิกฤติการเงินจากภาคต่างประเทศ ที่นับว่ามีความเสี่ยงสูงสำหรับเศรษฐกิจไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หรือวิกฤติตลาดเกิดใหม่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งหลังมีการปรับลดมาตรการ QE ของสหรัฐฯ ที่มากกว่าเดิม

อย่างไรก็ดี หากสหรัฐฯ หยุดมาตรการ QE นักลงทุนต่างชาติจะตั้งคำถามว่าทางสหรัฐฯ จะขึ้นดอกเบี้ยเมื่อไหร่ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดเงินไหลออกที่มากขึ้น อันจะกระทบต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจไทยได้ และหากเป็นเช่นนั้นทางกนง. อาจต้องกลับมาปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง