posttoday

บลจ.กรุงศรีตั้งเป้าเอยูเอ็ม2.4แสนล้าน

11 มีนาคม 2557

บลจ.กรุงศรี ตั้งเป้าเพิ่มเอยูเอ็ม 24% รักษาผู้นำกองทุนหุ้น มองเศรษฐกิจโลกฟื้นช่วยหนุนไทยให้โตได้ท่ามกลางความเสี่ยง

บลจ.กรุงศรี ตั้งเป้าเพิ่มเอยูเอ็ม 24% รักษาผู้นำกองทุนหุ้น มองเศรษฐกิจโลกฟื้นช่วยหนุนไทยให้โตได้ท่ามกลางความเสี่ยง

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)กรุงศรี เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนของบริษัทในปี 2557 บริษัทตั้งเป้ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) ที่ 2.4 แสนล้านบาท เติบโต 24% จากสิ้นปี 2556 ที่อยู่ระดับ 1.9 แสนล้านบาท โดยแผนการดำเนินงานในปีนี้จะมุ่งเน้นการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในส่วนของกองทุนหุ้น กองทุน LTF  และกองทุน RMF  พร้อมขยายฐานกองทุนตราสารหนี้ผ่านเครือข่ายสาขาธนาคารกรุงศรีทั่วประเทศ และมุ่งมั่นรักษาคุณภาพของกระบวนการลงทุน บริหารจัดการกองทุนให้มีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในกองทุนหุ้น พร้อมทั้งตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าเพิ่มอีก 54,000 ราย หรือเพิ่มขึ้น 28%

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2556 ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก มีทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหารโดยรวมเติบโต 31% การเติบโตของทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหารมาจากธุรกิจกองทุนรวมเป็นหลัก โดยธุรกิจกองทุนรวมมีการเติบโตสูงถึง 43% ในขณะที่อุตสาหกรรมกองทุนรวมโต 18% และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มสูงขึ้นในกองทุนรวมทุกประเภท

ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของ บลจ.กรุงศรี ในปีที่ผ่านมา คือ กองทุนหุ้น และกองทุนตราสารหนี้ โดยเฉพาะในส่วนของกองทุน LTF และ กองทุน RMF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้น ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทมียอดเงินลงทุนสุทธิสูงเป็นอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรม  คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนใหม่รวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท  และกองทุนหุ้นมียอดเงินลงทุนใหม่กว่า 8,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 83.31% ซึ่งเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นเพียง 49.26%  นอกจากนี้ บริษัทยังมีจำนวนบัญชีลูกค้าใหม่เพิ่มสูงขึ้น 51% สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความไว้วางใจที่ผู้ลงทุนมอบให้กับบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บลจ.กรุงศรี มุ่งมั่นที่จะรักษาผลการดำเนินงานที่ดีอย่างสม่ำเสมอเพื่อสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนให้ผู้ลงทุนเพื่อสร้างผลประโยชน์ที่สูงสุดแก่ผู้ลงทุนเป็นสำคัญ

นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์  ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า บริษัทมีมุมมองว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวดีขึ้น ทั้งตัวเลขการจ้างงาน ภาคที่อยู่อาศัย การใช้จ่ายของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ  แต่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงต้นปีอาจดูไม่ดีนัก ซึ่งเป็นผลจากอากาศที่หนาวเย็นกว่าปกติ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯบางส่วนชะลอตัวลงเป็นการชั่วคราว

ส่วนทางด้านยุโรป มีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้นเช่นกัน เยอรมนี ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป มีสัญญาณขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์และเอสแอนด์พี ต่างทยอยปรับอันดับความน่าเชื่อถือของกลุ่มประเทศที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวที่ดีขึ้น โดยการฟื้นตัวของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก จะส่งผลให้ปริมาณการค้าในตลาดโลกมีมากขึ้น  ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่ยังคงมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำต่อไป จะช่วยหนุนการขยายตัวของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว

นายประภาส กล่าวว่า สำหรับเศรษฐกิจไทยในช่วงต้นปี 2557 นี้ มีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยมีสาเหตุจากหนี้สินภาคครัวเรือนอยู่ในระดับสูง และความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเมืองภายในประเทศ ส่งผลให้จากภาคครัวเรือนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น  ในขณะที่ภาคธุรกิจชะลอการลงทุนออกไปเพื่อรอความชัดเจนของทิศทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณการฟื้นตัวในบางส่วนของภาคการส่งออก ซึ่งน่าจะส่งผลให้การส่งออกโดยรวมปรับตัวดีขึ้นในระยะข้างหน้า ในขณะที่หากปัญหาการเมืองได้รับการแก้ไข เศรษฐกิจไทยก็น่าจะกลับมาขยายตัวได้ดี เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังคงแข็งแกร่งอยู่ และภาคการท่องเที่ยว การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชน น่าจะฟื้นตัวหลังจากที่ความเชื่อมั่นกลับคืนมา ทั้งนี้ บลจ. กรุงศรี ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาว