posttoday

คาดกนง.ลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป

22 มกราคม 2557

ซีไอเอ็มบี ไทย คาด กนง.จะลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป มองเศรษฐกิจไทยครึ่งแรกของปีไม่สดใส

ซีไอเอ็มบี ไทย คาด กนง.จะลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป มองเศรษฐกิจไทยครึ่งแรกของปีไม่สดใส

นายอมรเทพ จาวะลา หัวหน้าส่วนวิจัยเศรษฐกิจและตลาดการเงิน สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.25% ในการประชุมวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ด้วยมติ 4 ต่อ 3 เสียง โดยได้ให้เหตุผลว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนในปัจจุบันยังคงเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองเป็นเพียงระยะสั้นนั้น  

สำนักวิจัยมองว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่องจากปลายปีก่อน และจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่กดดันแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ ประกอบกับที่ทางสภาพัฒน์ฯ จะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของไตรมาส 4 ปีที่แล้วในเดือนก.พ. 2557 ซึ่งคาดว่าจะสร้างความผิดหวังกว่าที่คาด น่าจะมีผลให้ทางกนง. ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุมหน้าในวันที่ 12 มี.ค. 2557

อย่างไรก็ดี กว่าที่ผลจากการลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผ่านถึงการลดต้นทุนของผู้ผลิตและการลดภาระของผู้บริโภค โดยปกติจะกินระยะเวลาพอสมควร จึงคาดว่าจะมีผลให้เศรษฐกิจในครึ่งแรกของปีนี้ไม่สดใสนัก

“เศรษฐกิจไทยในปี 2557 ดูจะอ่อนแอต่อเนื่องจากปลายปีก่อน ทั้งจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ดูจะมีเสถียรภาพมากขึ้นก็ตาม และจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่ได้รับแรงกดดันมาจากความไม่แน่นอนทางการเมือง อีกทั้งตลาดทุนและตลาดการเงินที่ผันผวนตามการเปลี่ยนแปลงของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี การส่งออกจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่แข็งแกร่งขึ้น โดยสำนักวิจัยประเมิน GDP ไทยปีนี้ว่าจะเติบโตได้ราว 3.4% แต่มีโอกาสโตได้ไม่ถึง 2% ในช่วงครึ่งแรกของปี ก่อนจะเร่งตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง จากความเชื่อมั่นที่จะกลับมาหลังปัญหาต่างๆ คลี่คลายลง” นายอมรเทพ กล่าว

ด้านค่าเงินบาทจะเผชิญความผันผวนสูงขึ้นจากเงินทุนเคลื่อนย้ายที่จะมีการเปลี่ยนแปลงตามการลดมาตรการ QE ของสหรัฐฯ และจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติต่อสภาวะทางการเมืองไทย โดยคาดว่าเงินบาทจะอ่อนค่าสู่ระดับ 33.50 บาท/เหรียญสหรัฐ ปลายไตรมาสแรก ก่อนจะปรับแข็งค่าตามการส่งออกที่ดีขึ้น ขณะที่การนำเข้ามีแนวโน้มอ่อนแอ อันจะลดแรงกดดันเงินบาท ค่าเงินบาทคาดว่าจะแตะระดับ 32.75 บาท/เหรียญสหรัฐ ช่วงปลายปี