กสิกรไทยปล่อยกู้สินเชื่อประหยัดไฟสูงสุด2ล้าน

ธนาคารกสิกรไทยปล่อยกู้เอสเอ็มอีเปลี่ยนหลอดประหยัดไฟสูงสุด 2 ล้านบาท ด้านพพ.อุดหนุนเงิน 30%

นายบุนชาน กุลวทัญญู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้หันมาสนใจลงทุน ปรับปรุงการลดต้นทุนด้านพลังงานซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 10% ของต้นทุนจริง ดังนั้น การบริหารจัดการเพื่อลดการใช้ไฟฟ้า และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในธุรกิจจึงนับเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันระยะยาวได้

“ธนาคารจึงออกบริการสินเชื่อประหยัดไฟกสิกรไทย (K-Top Up Loan for Energy Saving (Lighting Solution)) ที่จะช่วยลดต้นทุนค่าไปถึง 80% โดยตั้งเป้าปล่อยกู้ให้กับเอสเอ็มอีที่จะกู้ไปลงทุนเปลี่ยนหลอดไฟ มาใช้หลอด LED ที่ประหยัดพลังงาน ในวงเงิน 500 ล้านบาท โดยลูกค้าเก่าของธนาคารไม่ต้องใช้หลักประกัน อนุมัติภายใน 2 วัน ให้กู้วงเงินเต็ม 100% สูงสุด 2 ล้านบาทต่อราย นาน 3 ปี โดยคิดอัตราดอกเบี้ยตามความเสี่ยงของลูกค้า ที่อาจจะถูกหรือเท่ากับดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ปัจจุบันที่ 7%” นายบุนชานกล่าว

นายบุนชาน กล่าวว่า การปล่อยกู้โครงการเปลี่ยนหลอด LED อาจจะปล่อยได้ไม่ถึงเป้าที่ 500 ล้านบาท เนื่องจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีส่วนใหญ่ไม่สนใจลงทุนในเรื่องเหล่านี้น้อยมาก เพราะเอสเอ็มอีมองระยะสั้น ไม่มองระยะยาว ทำให้เห้นการลงทุนเป็นภาระค่าใช้จ่าย ทั้งที่การลงทุนหลอด LED ซึ่งใช้ได้ใน 5 ปี แต่ใช้ 2 ปีก็คุ้มทุนแล้ว อย่างไรก็ดีธนาคารสนับสนุนสินเชื่อเปลี่ยน LED เป็นเพียงการเริ่มต้นที่จะต่อยอดไปถึงการลงทุนประหยัดพลังงานด้านอื่นๆตามโครงการ K energy Saving ที่หนุนลดการใช้พลังงานและธุรกิจสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม   

ทั้งนี้ การปล่อยกู้โครงการเปลี่ยนหลอด LED เป็นความร่วมมือของธนาคารกับภาครัฐ ทั้ง กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยผู้ประกอบการที่เข้าเกณฑ์และขอกู้สินเชื่อเพื่อเปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทนยังได้รับเงินอุดหนุนถึง 30% ของวงเงินกู้หรือเงินลงทุนเพื่อการประหยัดพลังงานด้วย

ด้านนายประมวล จันทร์พงษ์ อธิบดี พพ. กล่าวว่า กรมได้จัดโครงารส่งสริมการลงทุนเพื่อเปลี่ยนอุปกรณ์ในการประหยัดพลังงาน โดยให้เงินอุดหนุนสูงสุด 30% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท เช่น ถ้าเอสเอ็มอีมากู้ลงทุนเปลี่ยนหลอด LED วงเงิน 2 ล้านบาท และทำตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด และมีระยะเวลาคืนทุนใน 7 ปี ก็จะได้เงินอุดหนุนจาก พพ. 30% หรือ 6 แสนบาท เป็นต้น