ธปท.แนะรัฐยอมรับประชาชนไม่ไว้วางใจ

ผู้ว่าธปท.แนะรัฐบาลยอมรับประชาชนไม่ไว้วางใจการทำงาน ชี้ต้องแก้ที่ต้นเหตุเพราะนโยบายหลายอย่างทำลายความมั่นใจของประชาชน

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การแสดงออกถึงการคัดค้านเป็นการแสดงออกถึงความไม่ไว้วางใจของประชาชนต่อรัฐบาล การค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเป็นตัวอย่างที่ทำลายความไว้วางใจของประชาชน เหมือนกับนโยบายรับจำนำข้าว เมื่อประชาชนไม่ไว้ใจ ก็จะเกิดความอ่อนแอ

"วิธีการแก้รัฐต้องเลิกสิ่งที่ทำให้เกิดความอ่อนแอ ต้องเข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง และยอมรับปัญหา และต้องแก้ที่ต้นเหตุ ถามว่าเรื่องนี้จะจบหรือไม่ ผมว่าอาจะยังไม่จบ เพราะมีการมาแก้ที่ปลายเหตุ เพราะการดำเนินนโยบายหลายอย่างคล้อยไปในทางทำลายความมั่นใจของประชาชน เช่น โครงการรับจำนำข้าว ที่หลายคนไม่เห็นด้วยแต่รัฐบาลยืนยันทำต่อ ทำให้ความไว้ใจของสังคมค่อยๆจางไปเรื่อยๆ"นายประสารกล่าว

นายประสารกล่าวว่า ส่วนตัวไม่ห่วงกรณีที่มีพนักงานของธปท.ออกมาแสดงการชุมชุมคัดค้านการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะถือเป็นการแสดงออกของประชาชนตามสิทธิ ซึ่งการชุมนุมของพนักงานก็ทำนอกรั้วของสำนักงานธปท. เรื่องนี้ถือเป็นการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตย และไม่มีผลกระทบต่อการทำงาน ซึ่งไม่น่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อการดำเนินนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง

"เรื่องที่พนักงานธปท.ออกมาชุมนุมคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่ได้มีการส่งสัญญาณอะไร เขาก็เป็นคนไทยคนหนึ่งที่มีความคิด เขาก็คงเห็นว่าไม่ถูกต้องจึงออกมาแสดงความเห็น ผมคิดว่า พนักงานที่ชุมนุมเขารอบคอบ เพราะไม่ได้ชุมนุมในรั้ว ธปท. ถามว่าส่วนตัวผมรู้สึกอย่างไร ผมว่าเขาแสดงออกดีกว่าไม่แสดงออก มองเป็นแง่บวกของการแสดงออกถึงคุณภาพชีวิตสังคมไทยว่าเมื่อเห็นสิ่งไม่ถูกต้องเกิดขึ้นก็ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย ดีกว่าสังคมเห็นว่าไม่ถูกแต่อยู่เฉยๆ เป็นการแสดงคุณภาพสังคม เพราะขนาดคนที่เคยเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลมาก่อน ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นที่สอดคล้องกัน โดยไม่คำนึงถึงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นหลัก"นายประสารกล่าว

นายประสารกล่าวอีกว่า การแสดงพลังของประชาชนในครั้งนี้ถือเป็นความความสำเร็จของนโยบายสาธารณะที่ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของสาธารณะชน หรือ Public office is a public trust. ซึ่งการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของรัฐบาลเป็นตัวอย่างของความไม่ไว้วางใจของประชาชนที่เกิดขึ้น ดังนั้น การแก้ไขปัญหาเรื่องนี้จึงควรแก้ที่ต้นเหตุของความไม่ไวัวางใจ

ด้าน นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้ให้อำนาจการสั่งปิดสาขากรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างมีการชุมนุมคัดค้าน พ.ร.บ. นิรโทษกรรม แก่ผู้จัดการสาขา ให้ขออนุญาตระดับภาคและระดับเขตเพื่อปิดสาขาชั่วคราวได้ทันที่โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตจากสำนักงานใหญ่ เพื่อความรวดเร็ว โดยเมื่อที่ผ่านมาทางสาขาราชดำเนินและนางเลิ้งได้ขอปิดให้บริการในช่วงที่กลุ่มผู้ชุมนุมเดินผ่านเป็นเวลา 2 – 3 ชั่วโมงแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน

อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานใหญ่ สะพานควาย ไม่มีมาตรการป้องกันพิเศษ เพราะไม่อยู่ในพื้นที่ชุมนุม รวมทั้งไม่มีคำสั่งห้ามพนักงานชุมนุม เพราะเห็นว่าพนักงานแบงก์ไม่ใช่กลุ่มที่มีความคิดรุนแรง หากต้องการแสดงออกทางการเมืองก็คงไม่กระทบต่อการทำงานของธนาคาร