posttoday

คลังเผยศก.เดือนเม.ย.แผ่วหวั่นฉุดไตรมาส2

30 พฤษภาคม 2556

เศรษฐกิจเดือนเม.ย.มีสัญญาณชะลอ เหตุภาคอุตสาหกรรมและเกษตรได้รับผลกระทบค่าเงินบาท เตรียมปรับลดประมาณการลง

เศรษฐกิจเดือนเม.ย.มีสัญญาณชะลอ เหตุภาคอุตสาหกรรมและเกษตรได้รับผลกระทบค่าเงินบาท เตรียมปรับลดประมาณการลง
 
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ในเดือนหน้า สศค. จะปรับประมาณการเศรษฐกิจลดลง จากที่ประมาณการไว้เดิม 5.3% ต่อปี เนื่องจาก 2 ปัจจัยสำคัญ คือ เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกขยายตัวได้ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ที่ 6% แต่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศออกมาขยายตัวได้เพียง 5.3% เท่านั้น จนปรับประมาณการเศรษฐกิจทั้งปีเหลือ 4.2-5.2% ต่อปี จากเดิม 4.5-5.5% ต่อปี

เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในเดือนเมษายน 2556 บ่งชี้เศรษฐกิจไทยในด้านการผลิตมีสัญญาณแผ่วลงจากภาคอุตสาหกรรมและภาคการเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนเมษายน 2556 หดตัว 3.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากช่วงต้นปีมาอยู่ที่ 92.9 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลต่ออัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก

นอกจากนี้ ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรหดตัว 4.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ตามการลดลงของผลผลิตในหมวดพืชผลสำคัญ โดยเฉพาะข้าวนาปรัง และมันสำปะหลัง จากการจำกัดการผลิตเนื่องจากความกังวลจากสถานการณ์ภัยแล้งในปีเพาะปลูก 2556 และเป็นผลทำให้รายได้เกษตรกรที่แท้จริงหดตัว 10.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม ภาคการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยทั้งสิ้น 2.0 ล้านคน ขยายตัว 19.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากนักท่องเที่ยวจีน รัสเซีย และมาเลเซีย เป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในด้านการผลิตในเดือนเมษายน 2556 จะมีสัญญาณแผ่วลง แต่เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการใช้จ่ายทั้งภายในประเทศและการส่งออกปรับตัวดีขึ้น สะท้อนได้จากยอดจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ในเดือนเมษายน 2556 ขยายตัว 3.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลจากการขยายตัวจากการบริโภคในประเทศที่ขยายตัว 10.0% เป็นหลัก นอกจากนี้ ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัว 12.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับการบริโภคสินค้าคงทนซึ่งสะท้อนได้จากปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง ยังคงขยายตัวได้ 22.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้จะลดลงจากเดือนมีนาคม 2556 ที่ขยายตัว 93.4% อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนเมษายน 2556 ลดลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน มาอยู่ที่ระดับ 73.9 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความกังวลค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็ว

สำหรับการลงทุนภาคเอกชนในเดือนเมษายน 2556 ขยายตัวได้ดีจากช่วงก่อนหน้าทั้งจากการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรและหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนที่ขยายตัว 2.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัว 5.7% ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ขยายตัว 26.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดจำหน่ายปูนซีเมนต์ขยายตัว 17.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงทิศทางการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ซึ่งขยายตัวต่อเนื่องอยู่ที่ 35.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับในด้านการส่งออก ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยขยายตัว 10.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากสินค้าหมวดอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก เป็นสำคัญ โดยหากมองตลาดส่งออก ยังสามารถส่งออกได้ดีในตลาดฮ่องกง ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา

นายเอกนิติ กล่าวว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในเดือนเมษายน 2556 บ่งชี้ถึงสัญญาณการชะลอตัวต่อเนื่องของภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 ทั้งนี้ สศค.จะได้ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป