บาทแข็งกระทบบจ.จิ๊บจ๊อย

“ประภาส” เชื่อบาทแข็งกระทบ บจ.ไม่มาก มั่นใจลงทุนนอกความเสี่ยงค่าเงินลดแล้ว

นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี กล่าวเสวนาเรื่อง “ผลกระทบจากค่าเงินบาทต่อทางเลือกในการลงทุน” ในงาน Capital Market Research Forum ครั้งที่ 3/2556 โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าไม่มากนัก แต่มาตรการดูแลค่าเงินบาทจะส่งผลกระทบทางจิตวิทยาต่อนักลงทุน

“ตลาดหุ้นไทยจะชอบให้ค่าเงินบาทแข็งมากกว่า เพราะกลุ่มพลังงานชอบบาทแข็ง ทำให้ราคาพลังงานลดลง กลุ่มสาธารณูปโภคก็ชอบเนื่องจากกู้เงินเป็นสกุลเหรียญสหรัฐ ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อุปโภคบริโภคและธนาคารไม่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาท” นายประภาส กล่าว

นอกจากนี้ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มยานยนต์ที่มีรายได้จากการส่งออกจำนวนมากนั้น ผู้ประกอบการได้มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน โดยแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในบริษัทที่มีสัดส่วนรายได้ในรูปเหรียญสหรัฐจำนวนมาก

นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ภัทร กล่าวว่า ในช่วงที่ภาวะดอกเบี้ยในประเทศสูงกว่าต่างประเทศ การลงทุนที่มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนจะมีผลตอบแทนเพิ่มขึ้น

สำหรับการลงทุนในประเทศต้องประเมินว่าบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกมากแค่ไหน ยิ่งส่งออกมากยิ่งได้รับผลกระทบมาก และบริษัทที่ใช้วัตถุดิบในประเทศจะได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทมากกว่าบริษัทที่นำเข้าวัตถุดิบ แต่ปัจจุบันบริษัทผู้ส่งออกมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้น

นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาพอร์ตลงทุนของธนาคาร กสิกรไทยลดสัดส่วนการลงทุนตราสารหนี้ลง เนื่องจากไม่มั่นใจว่ามาตรการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนของทางการไทยจะรุนแรงจนทำให้ไทยหลุดออกจากดัชนีตราสารหนี้โลกหรือไม่

สำหรับทิศทางค่าเงินบาทจะปรับตัวอ่อนค่าลงหรือไม่นั้น นายธิติ กล่าวว่า จะต้องจับตาดู 3 ปัจจัยหลัก คือ เศรษฐกิจจีน และสหรัฐหยุดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (คิวอี) รวมทั้งปัญหาการเงินในยุโรปที่อาจจะกลับมาอีกครั้ง

“ต้องรอดูตัวเลขเศรษฐกิจจีนอีก 2-3 เดือนข้างหน้าว่าจะออกมาไม่ดีอีกหรือไม่ หลังจากเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว หากจีนแย่ลงนักลงทุนจะทยอยขายสินทรัพย์ออกจากเอเชียและกลับเข้าไปสหรัฐ ซึ่งเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวแล้วและจะทำให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐแข็งค่าขึ้น เงินเอเชียอ่อนค่าลง”นายธิติกล่าว