posttoday

ธปท.เลือกอุ้มเอสเอ็มอี

15 พฤษภาคม 2556

ธปท. ขอ บสย.ค้ำหนี้ ขายประกันความเสี่ยงค่าเงินให้เอสเอ็มอี คิดค่าธรรมเนียม 1.7%

ธปท. ขอ บสย.ค้ำหนี้ ขายประกันความเสี่ยงค่าเงินให้เอสเอ็มอี คิดค่าธรรมเนียม 1.7%

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คลังและ ธปท.ตกลงให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ออกโครงการค้ำประกันเอสเอ็มอีที่ต้องการซื้อป้องกันความเสี่ยงค่าเงินบาทผันผวน

นายวัลลภ เตชะไพบูลย์ รองผู้จัดการทั่วไป สายงานสนับสนุน รักษาการผู้จัดการทั่วไป บสย. กล่าวว่า ลูกค้าเอสเอ็มอีที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันที่ต้องการขอกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์และรายที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินสามารถขอใช้บริการค้ำประกันได้ทั้งสองแบบ โดย บสย.จะคิดค่าธรรมเนียมเท่ากันในอัตรา 1.7% ของวงเงินค้ำประกัน

“โครงการนี้ทำได้ทันที หากได้รับการตอบรับดีอาจพิจารณาทำแยกออกมาเป็นโครงการพิเศษในภายหลัง” นายวัลลภ กล่าว

นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย คาดว่า ลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า คือ กลุ่มที่ทำธุรกิจส่งออกเป็นหลักประมาณ 20% ซึ่งกรณีเลวร้ายที่สุดลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารจะได้รับความเสี่ยงจากค่าเงินบาทมีประมาณ 2% ของสินเชื่อเอสเอ็มอีทั้งหมด หรือคิดเป็นมูลหนี้ 9,181 ล้านบาท

นายพัชร กล่าวว่า ปัญหาของเอสเอ็มอี คือ ไม่นิยมทำป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน ไม่ว่าเงินบาทจะมีแนวโน้มแข็งค่าหรืออ่อนค่า ลูกค้าเอสเอ็มอีจะมีบุคลิกกล้าได้กล้าเสีย ดูกำไรเป็นหลัก ทำให้ลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารมีไม่ถึง 5% ที่ซื้อป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน

สำหรับธนาคารกสิกรไทย ออกผลิตภัณฑ์ K-Right Zero สามารถป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ 100% เช่นกัน ผลิตภัณฑ์นี้เมื่อลูกค้าจองอัตราแลกเปลี่ยนไว้ล่วงหน้าแล้ว หากถึงกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนราคาตลาดดีกว่า ลูกค้าสามารถเลือกอัตราแลกเปลี่ยนที่ให้ประโยชน์กับลูกค้ามากกว่าได้ ธนาคารจะคิดค่าธรรมเนียม 0.3% ของกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งได้เริ่มออกผลิตภัณฑ์ป้องกันความเสี่ยงแบบใหม่ให้กับธุรกิจเอสเอ็มอีแล้ว