posttoday

"กูไม่ตัน"on Forbes

23 เมษายน 2556

โดย...ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)

โดย...ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)

วันก่อนหยิบนิตยสาร Forbes ขึ้นมาพลิกอ่าน เจอเสี่ยตัน (อิชิตัน)

คุณตันเล่าเตือนความทรงจำของเราถึง Reality “หา Partner คนรุ่นใหม่” เมื่อปี 2553 ที่คุณตันประกาศรับสมัครคนรุ่นใหม่ ให้เข้ามาร่วมเป็นหุ้นส่วนในบริษัท ไม่ตัน เป็นบริษัทที่คุณตันตั้งขึ้นมาภายหลังจากขาย Oishi ให้คุณเจริญ ณ เวลานั้น ปี 2553 คุณตันเริ่มสร้างโรงงานน้ำขึ้นมาใหม่ ให้ชื่อว่า Ichitan เริ่มจากการออกน้ำประหลาดๆ สมุนไพรออกมา แล้วตามด้วย ชาเขียวในที่สุด ปีนี้คุณตันเล่าว่า Ichitan สามารถครองตลาด 40% ของเครื่องดื่มชาเขียว แซงหน้า Oishi ผู้นำอย่างหวุดหวิด ด้วยหลักการตลาดแบบสุดโต่งเริ่มจาก “ปฏิบัติการยึดตู้เย็น”

“ปฏิบัติการยึดตู้เย็น” เป็นการเข้าแย่งชิงช่องทางการขาย ซึ่งมอง 7-11 ที่มีตู้แช่ถึง 6,600 ตู้ รวมกับ Family Mart ที่ 700 ตู้ เป็นฐานที่มั่นในการแย่งส่วนแบ่งตลาดน้ำเขียวกลยุทธ์แบบแจกกระจาย ซื้อหนึ่ง แถมอีกหนึ่ง สร้างความแตกตื่นให้กับ มนุษย์ทั่วไป ทำให้วัยรุ่นเปลี่ยนจากการดื่มน้ำอัดลมมาดื่มชาเขียวมากขึ้น แค่นั้นไม่พอการตลาดแบบ Social Network ที่เขย่าวงการอย่างต่อเนื่อง วันนี้ Facebook ที่มีคนคลิก Like มากที่สุดในประเทศไทย ก็หนีไม่พ้นของคุณตัน” คุณตันเล่าว่า Social Network มันไม่ Work ในการขายสินค้า แต่มัน Work ในด้านการสร้าง Lifestyle ดังนั้น Drama ต้องนำการสร้าง CSR และการแจกเงินล้าน

“ฮึม!! ถ้าถามผมในมุมวัยรุ่น ก็บอกได้เลยว่า ที่คุณตันทำ มันโดน!!”

โอเค!! ที่เล่ามาผมอยากจะชี้ให้เห็นถึง Partner ทั้ง 9 ชีวิต ที่คุณตันรับเข้ามา ผ่านการคัดตัวอย่างหนัก ให้เข้ามาเป็นหุ้นส่วนของบริษัท ไม่ตัน ผมว่าประเด็นนี้น่าสนใจมากเรื่องนี้ มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วใน Silicon Valley ที่บริษัท Pay Pal ซึ่งเป็นการรวมตัวของคนหนุ่ม (ที่ค่อนข้างบ้า) มารวมตัวกัน แล้วสร้างบริษัท Pay Pal ขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกของคนที่เบื่อการบริการแบบเดิมของธนาคารการรวมตัวในครั้งนั้น ไม่สามารถทำให้ระบบธนาคารเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ Pay Pal สามารถสร้างทางเลือกในการจ่ายเงินใหม่ บนโลก Internet หลังจากนั้นไม่นาน Pay Pal ก็ถูกบริษัท eBay ขอซื้อด้วยเม็ดเงินมหาศาล หลังจากการถูกซื้อ ก็ทำให้เด็กหนุ่มที่รวมตัวกันก่อตั้ง Pay Pal ก็ต่างได้เงินและรวยมหาศาลกันทุกคน

หลังจากคนหนุ่มเหล่านี้ได้เงินมหาศาล เขาก็ “แตกกระจาย” ไปคนละทิศทาง แต่ยังวนเวียนอยู่ใน Silicon Valley วันนี้กลุ่มคนหนุ่มดังกล่าว ได้รับสมญานามว่า Mafia Pay Pal เพราะแต่ละคนต่างแยกกันไปทำสิ่งที่ตัวเองสนใจ รวมทั้งตั้งบริษัทและให้เงินทุนแก่คนรุ่นใหม่ ซึ่งหนึ่งในบริษัทที่คนหนุ่มเหล่านี้สร้างขึ้นมา รวมถึง Facebook, Instagram, Twitter, Linkedin, Tesla เป็นต้น

“คำถามคือ อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คนหนุ่มที่รวยมหาศาลตั้งแต่ยังหนุ่มไม่ Retire แล้วออกไปใช้เงิน แต่กลับเอาเงินนั้นมาสร้างธุรกิจ”

คำตอบ คือ “ความระห่ำและความหมายในชีวิต” จริงๆ ผมไม่รู้หรอกว่า ทำไมคนหนุ่มเหล่านี้ ไม่เอาเงินไปใช้หาความสุขแบบไร้ขีดจำกัด แต่กลับเอาเงินกลับมาทำงานหนัก แต่ผมเชื่อว่าคนเราทุกคนเกิดมาเพื่อทำอะไรสักอย่างที่มีความหมาย คนเล็กๆ อาจจะมีความฝัน ที่อยากทำอะไรที่มีความหมายสำหรับตัวเองแต่เมื่อคนเล็กๆ นั้นเติบโต เขาอาจเริ่มความฝันที่ใหญ่ขึ้น เช่น การทำอะไรที่มีความหมายต่อครอบครัวและคนที่เขารัก และสุดท้ายเมื่อคนนั้นๆ มีโอกาสและเติบโตขึ้น เขาก็คงอยากมีความหมายต่อคนที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ คำถามคือ แล้วถ้าคุณมีโอกาสที่จะเปลี่ยนประเทศหรือเปลี่ยนโลก หลังจากที่คุณมีความพร้อมทุกๆ ด้านในเรื่องของการเงินส่วนตัวแล้ว คุณจะทำอย่างไร?

สำหรับผม ผมเชื่อว่า “คนเรามีความหมาย เพราะเรามีความหมายต่อคนอื่น” ที่สุดหลังจากที่เราประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ แล้ว ขั้นต่อไปก็คือ การมอบโอกาสนั้นๆ ให้คนอื่นต่อๆ ไป เผื่อที่ว่า “โอกาสเล็กๆ” ที่เรามอบให้คนอื่น จะทำให้คนคนนั้น สามารถนำความสามารถและความฝันของเขาเปลี่ยนชีวิตคนอื่นและเปลี่ยนโลกในที่สุด

“คุณตัน” เป็นหนึ่งในมนุษย์พันธุ์ใหม่ ที่ผมเชื่อว่าเขาเปลี่ยนโลกได้ อย่างน้อยคนหนุ่มสาวทั้ง 9 คน ที่คุณตันรับเข้ามาเป็นหุ้นส่วนบริษัท ไม่ตัน ก็ได้เรียนรู้และเปลี่ยนชีวิตเขาไปเรียบร้อยแล้ว “ความมันส์ยังคงดำเนินต่อ จับตาดูกันต่อไป”