posttoday

ยอดเบี้ยวหนี้เช่าซื้อเริ่มพุ่ง

13 เมษายน 2556

ธปท.เกาะติดเช่าซื้อหลังสินเชื่อโตรวดเร็ว 40% ผิดนัดชำระทะยานขึ้นมาถึง 6.1%

ธปท.เกาะติดเช่าซื้อหลังสินเชื่อโตรวดเร็ว 40% ผิดนัดชำระทะยานขึ้นมาถึง 6.1%

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังติดตามอัตราการเติบโตของสินเชื่อรถยนต์ที่อยู่ในระดับสูงถึง 40% เป็นผลมาจากโครงการรถคันแรกของภาครัฐ ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าเศรษฐกิจจริง กนง.จึงให้ความสำคัญและให้ ธปท.ติดตามดูเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจนำไปสู่ภาวะฟองสบู่ได้

“เรากำลังติดตามสินเชื่อต่างๆ ที่ขยายตัวค่อนข้างสูง โดยเฉพาะสินเชื่อรถยนต์ที่โตมากถึง 40% แนวโน้มยังจะเติบโตในอัตราที่น่ากังวลมากขึ้น ขณะเดียวกันสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มีอัตราผิดนัดชำระสูงสุดในระบบที่ 6.1% ในช่วงสิ้นเดือน ก.พ. เทียบกับเดือน ม.ค. ที่อยู่ในระดับแค่ 5.7%” นายไพบูลย์ กล่าว

ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ไปสำรวจในต่างจังหวัด พบว่าจำนวนลูกค้าหลายคนพบผิดนัดมากขึ้น แต่ก็ต้องติดตามไปอีกระยะหนึ่งก่อน อย่างไรก็ตามถ้าถึงกรณีจำเป็นและเหมาะสม ธปท.ก็พร้อมดำเนิน

สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์นั้น จากการตรวจสอบของโพสต์ทูเดย์ พบว่ากระจุกตัวอยู่ในส่วนของธนาคารขนาดเล็ก เช่น ธนาคารทิสโก้ ที่ปล่อยกู้คิดเป็น66% ของพอร์ตสินเชื่อ ธนาคารเกียรตินาคินที่คิดเป็น 73% ของสินเชื่อรวม โดยทิสโก้มีอัตราการเติบโตในเดือน ก.พ. 2.4% แต่เมื่อเทียบกับปีต่อปีขยายตัวถึง 35.8% ขณะที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาฐานสินเชื่อลดลง โดยในเดือน ก.พ. ขยายตัว 0.8% และขยายตัวถึง 12.9% เมื่อเทียบปีต่อปี

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) เปิดเผยการดำเนินงานงวดไตรมาสแรกว่า มีกำไรสุทธิ 1,153 ล้านบาท คิดเป็นกำไรหุ้นละ 1.58 บาท เพิ่มขึ้นถึง 37.86% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 836 ล้านบาท หรือเท่ากับ 1.15 บาทต่อหุ้น นอกจากอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROE) ก็เพิ่มขึ้นจาก 20% เป็น 24.6%

ทิสโก้ระบุว่ากำไรที่เพิ่มขึ้น มาจากราย ได้ดอกเบี้ยรวม ที่เพิ่มขึ้น 30.9%ตามการขยายตัวของสินเชื่อซึ่งเพิ่มขึ้น 7.4% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2555 และเพิ่มขึ้นแค่ 37.1% ขณะที่ส่วนต่างดอกเบี้ยยังคงที่ 3% ส่วนรายได้จากค่านายหนาซื้อขายหลักทรัพย์พุ่งขึ้นถึง 104% ตามมูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นโดยรวม

ด้านนายธรรมรัตน์ กิตติสิริพัฒน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี กล่าวว่า ธปท.มีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งปัจจัยหลักมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าเราอย่างญี่ปุ่นและอาเซียน สิ่งที่เป็นปัจจัยเสี่ยงมากที่สุดในตอนนี้ คือ เรื่องของกระแสเงินลงทุน ซึ่งทำให้เงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็ว รวมทั้งยังมีความเสี่ยงเรื่องหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงด้วย แต่แรงกดดันเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ จึงคาดว่าดอกเบี้ยนโยบายจะยังทรงตัวต่อไปในช่วงที่เหลือของปีนี้

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวว่า ได้รับรายงานจากบริษัทไฟแนนซ์ที่ปล่อยสินเชื่อรถยนต์โครงการรถยนต์คันแรกว่า ขณะนี้ มีผู้ซื้อรถยนต์ในโครงการนี้ แต่ไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้มี 2,000 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่มากเมื่อเทียบกับยอดซื้อรถยนต์ในโครงการกว่า 1 ล้านคัน