สคร.ยันร่วมทุนเอกชนไม่กระทบค่าบริการ

สคร.ยืนยัน กฎหมาย PPP ที่ให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ  จะไม่กระทบกับค่าบริการของประชาชน

นายประสงค์ พูลธเนศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. คาดว่า จะเริ่มบังคับใช้กฎหมายร่างพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ... หรือ PPP ได้หลังเดือนกันยายน 2556 เนื่องจากต้องออกกฎหมายลูกอีก 16 ฉบับก่อน เช่น ประกาศกระทรวงการคลัง และยังต้องแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากฝ่ายต่างๆ จำนวน 7 คน ให้เสร็จภายใน 120 วันหลังจากกฎหมายมีบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อทำหน้าที่วางนโยบายการลงทุนและคัดเลือกโครงการลงทุนที่เข้าข่ายการลงทุนแบบ PPP ซึ่งกฎหมายฉบับดังกล่าวจะทำให้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของไทยคืบหน้าอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 2 ล้านล้านบาทและโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ยืนยันว่า แม้จะมีภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ แต่จะไม่กระทบกับค่าบริการของ ประชาชน เพราะจะมีคณะกรรมการจากภาครัฐควบคุมดูแลไม่ให้ค่าโดยสารหรือค่าบริการสูงจนประชาชนผู้ใช้บริการได้รับความเดือดร้อน

สำหรับโครงการที่เข้าข่ายใช้การลงทุนแบบ PPP ได้แก่ การสร้างรถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆในกรุงเทพฯและปริมณฑล การสร้างเส้นทางมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-นครราชสีมา ท่าเรือน้ำลึกปากบารา จ.สตูล  ท่าเรือสงขลา เป็นต้น