เตือนอย่ารวบรัด2ล้านล้าน

“ทนง” เตือนรัฐอย่ารวบ 2 ล้านล้าน ไว้ในกฎหมายฉบับเดียว หวั่นหนี้พุ่งสูงฉุดเครดิต

นายทนง พิทยะ อดีต รมว.คลัง กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่จะรวบโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 2.2 ล้านล้านบาท ไว้ในกฎหมายเพียงฉบับเดียว เพราะเป็นเรื่องยากที่จะผ่านสภา และครอบจักรวาลเกินไป ข้อสำคัญคือยังไม่มีความชัดเจนว่าโครงการเหล่านี้จะใช้ระยะเวลานานเท่าไหร่

นายทนง เสนอแนะว่ารัฐบาลควรจะจัดแบ่งโครงการออกเป็นกลุ่มตามประเภทการลงทุน และตามลำดับความสำคัญกับสิ่งจำเป็นเร่งด่วน เช่น ระบบรางเพื่อการขนส่งมวลชน เป็นต้น

“เป็นเรื่องที่น่ากลัวว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท จะใช้ทำอะไร หนี้ของประเทศจะเพิ่มเป็นเท่าไหร่ แม้ปัจจุบันจะอยู่ที่ 40% ของจีดีพี แต่ยังมีหนี้นอกงบประมาณที่รวมแล้วจะเป็น 50% และหากโครงการลงทุนทำให้หนี้ประเทศขึ้นแตะ 60% จะเป็นระดับที่น่ากลัว เพราะอาจกระทบต่ออันดับเครดิตของประเทศ รวมทั้งความสามารถในการชำระหนี้” นายทนง กล่าว

อดีต รมว.คลัง ยังกล่าวอีกว่า เศรษฐกิจของประเทศยังเดินหน้าไปต่อได้ แต่ควรติดตามฟองสบู่ภาคอสังหาริมทรัพย์ ไม่ให้มีการเก็งกำไรมากเกินไป เพราะพบว่านักลงทุนต่างชาติ ทั้งจีน สิงคโปร์ และกลุ่มประเทศยุโรปสนใจอสังหาริมทรัพย์ไทย เนื่องจากราคาถูกกว่าสิงคโปร์ 10 เท่าตัว

“มาตรการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการดูแลเศรษฐกิจไม่ได้จำกัดแค่อัตราดอกเบี้ย แต่สามารถกำกับธนาคารไม่ให้ปล่อยกู้อสังหาริมทรัพย์มากเกินไป เช่น อาจเพิ่มเกณฑ์ให้กันสำรอง 15-20% เมื่อปล่อยกู้ให้อสังหาริมทรัพย์จากเดิม 8.5% เหมือนจีนที่ใช้ได้ผลดีมาก่อน” นายทนง กล่าว

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า จะสรุปแผนลงทุนทั้งหมดร่วมกับนายกรัฐมนตรีในวันที่ 15 มี.ค.นี้ นอกจากโครงการหลักแล้ว จะจัดทำโครงการสำรองในกรณีที่โครงการหลักติดปัญหา เช่น การจัดทำผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ เป็นต้น n