posttoday

นายกญี่ปุ่นเยือนไทยมีนัยทางเศรษฐกิจ

16 มกราคม 2556

ศูนย์วิจัยฯ ชี้ญี่ปุ่นเบนเข็มมาให้ความสำคัญกับอาเซียนและไทยเป็นฐานการลงทุน ลดความผันผวนจากเศรษฐกิจโลก

ศูนย์วิจัยฯ ชี้ญี่ปุ่นเบนเข็มมาให้ความสำคัญกับอาเซียนและไทยเป็นฐานการลงทุน ลดความผันผวนจากเศรษฐกิจโลก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับนัยสำคัญของการเยือน 3 ประเทศในอาเซียนของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 16-19 มกราคมนี้ โดยเป็นการเยือนประเทศไทยในวันที่ 17-18 มกราคม ซึ่งเป็นการเยือนอาเซียนหลังจากที่ได้ประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ 20.2 ล้านล้านเยนไปเมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา

นายกญี่ปุ่นเยือนไทยมีนัยทางเศรษฐกิจ ปัจจัยเสี่ยงภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่น

ปัจจุบันอาเซียนเป็นหนึ่งในตลาดเกิดใหม่ที่ญี่ปุ่นสนใจเข้าไปลงทุน จากที่ในภาวะปัจจุบัน ธุรกิจในญี่ปุ่นต้องเผชิญกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่กดดันต่อผลประกอบการของบริษัท ตลอดจนต้นทุนการผลิตที่พุ่งสูง และกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนแรงลง ส่งผลให้ธุรกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มออกไปลงทุนยังหลายภูมิภาคทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศตลาดเกิดใหม่ อย่างอาเซียนที่ปัจจัยด้านค่าจ้างแรงงานที่ไม่สูงนัก ตลาดที่ยังมีโอกาสขยายตัวอีกมากจากการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 และเป็นฐานการผลิตส่งออกไปยังตลาดใกล้เคียงที่สำคัญ อย่างจีน และออสเตรเลีย ซึ่งแน่นอนว่า ไทยยังคงเป็นเป้าหมายการลงทุนที่สำคัญของญี่ปุ่น แต่โครงการใหม่ๆ มีแนวโน้มกระจายไปยังประเทศอื่นๆในอาเซียนด้วย

นายกญี่ปุ่นเยือนไทยมีนัยทางเศรษฐกิจ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่ออกมาในรอบล่าสุด มีการประเมินว่าจะช่วยเพิ่มจีดีพีญี่ปุ่นได้ราว 2% และสร้างงานราว 6 แสนตำแหน่ง  ซึ่งช่วยหนุนการส่งออกของไทยไปยังญี่ปุ่นให้ขยายตัวได้ดีขึ้นในปี 2556 หลังจากที่ใน 11 เดือนแรกของปี 2555 หดตัวลงที่ 2% จากที่เคยขยายตัวในระดับ 2 หลักมาอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การส่งออกของไทยไปยังญี่ปุ่นอาจขยายตัวประมาณ 8% ในปี 2556 สินค้าส่งออกของไทยที่ได้รับอานิสงส์ ได้แก่ กลุ่มวัตถุดิบอุตสาหกรรม เช่น อุปกรณ์และส่วนประกอบยานยนต์, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ รวมถึงสินค้าเพื่อการบริโภค เช่น ไก่แปรรูป, อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป

นายกญี่ปุ่นเยือนไทยมีนัยทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุนของญี่ปุ่นที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในอาเซียน มีนัยต่อไทยทั้งด้านบวกและด้านที่ต้องระวัง โดยสิ่งที่ไทยต้องตระหนักคือนักลงทุนญี่ปุ่น แม้ยังให้ความสนใจลงทุนในไทย แต่อันดับความน่าสนใจของไทยลดลง โดยมีอินโดนีเซียแซงขึ้นมา สะท้อนถึงการแข่งขันดึงดูดการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนซึ่งไทยกำลังเผชิญคู่แข่งมากรายขึ้น