ความสุขเกษตรกรมีรายได้มีเงินออมไม่มีหนี้

เกษตรกรส่วนใหญ่จะมีความสุขถ้าไม่มีหนี้ ได้อยู่บ้านบนที่ตัวเอง มีหลักประกันสุขภาพ ขายของได้ราคา และพืชผลเจริญงอกงาม

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดทำวิจัยภายใต้หัวข้อ ความสุขของเกษตรกรไทย เพื่อเป็นข้อมูลในการกำหนดนโยบายพัฒนาภาคการเกษตร จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,000 ครัวเรือนจากทั่วประเทศ โดยผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยความสุขของเกษตรกรอันดับ 1 คือ ความสุขจากการมีรายได้ที่แน่นอน มีเงินออม และไม่มีหนี้สิน โดยคิดเป็น 25% อันดับ 2 เป็นความสุขที่เกิดจากการมีบ้านอยู่อาศัย ท่ามกลางเรือกสวนไร่นาที่เป็นของตัวเอง คิดเป็น 20.1%

ส่วนอันดับ 3 คือความสุขจากการมีหลักประกันสุขภาพได้มาตรฐานเท่าเทียมกับโรงพยาบาลใน กทม. คิดเป็น 19.8% อันดับ 4 ได้แก่ ความสุขจากการที่สินค้าเกษตรของตนสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูงทั้งในและต่างประเทศ คิดเป็น 17.7% และอันดับที่ 5 ความสุขจากการมีพืชผลทางการเกษตรที่เจริญงอกงามดีพร้อมกับมีการประกันภัยพืชผลทางการเกษตรจากความเสี่ยงสภาพอากาศแปรปรวน คิดเป็น 17.4%

นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ในปี 2556 ธ.ก.ส. คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 4.4-4.6% โดยภาคเกษตรจะเติบโตได้ดี ด้วยมูลค่า 4.3 แสนล้านบาท ขยายตัว 3% ตลาดสินค้าเกษตรสำคัญของไทยในปีหน้า จะเป็นตลาดเกิดใหม่ในแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาใต้ ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มสูงขึ้น จากสภาพอากาศที่แปรปรวน

สินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น อาทิ  กุ้งเพิ่มขึ้น 8% , อ้อยและน้ำตาลทราย เพิ่มขึ้น 6-7% , มันสำปะหลัง สูงขึ้นประมาณ 5-10% ,  ไก่ เพิ่มขึ้น 3% และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้น 2.5% ส่วนสินค้าเกษตรที่ราคามีแนวโน้มลดลง อาทิ สุกร ลดลง 4% จากผลผลิตที่มีเพิ่มขึ้น รวมทั้งยางพารา ที่น่าจะลดลง 3% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว