posttoday

สภาผ่านพรบ.บัตรเครดิต

21 พฤศจิกายน 2555

ที่ประชุมสภามีมติเอกฉันท์ 330 เสียง ผ่าน พ.ร.บ.บัตรเครดิต ขณะที่ฝ่ายค้านหวั่นคนจนเป็นหนี้ท่วมหัว

ที่ประชุมสภามีมติเอกฉันท์ 330 เสียง ผ่าน พ.ร.บ.บัตรเครดิต ขณะที่ฝ่ายค้านหวั่นคนจนเป็นหนี้ท่วมหัว

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติรับร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจบัตรเครดิต พ.ศ......   ฉบับที่คณะรัฐมนตรี, สส.พรรคเพื่อไทย และ สส.พรรคประชาธิปัตย์ นำเสนอ รวม 3 ฉบับ ด้วยเสียงเป็นเอกฉันท์ 330 เสียง

โดยสาระสำคัญในการเสนอร่ากฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯนั้น มีเป้าหมายที่ตรงกัน คือ ออกหลักเกณฑ์ กำกับดูแลการประกอบธุรกิจบัตรเครดิต รวมถึงมีกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า เดือนส.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีบัตรเครดิตที่ใช้ในระบบ ประมาณ 16 ล้านบาท มียอดสินเชื่อคงค้าง 2.2 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันการใช้บัตรเครดิต ถูกใช้เป็นช่องทางการทำทุจริตในบางรูปแบบทำให้ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต ร้านค้า และผู้บริโภคเดือดร้อน และที่สำคัญไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ

“การประกอบธุรกิจบัตรเครดิต มี 2 ประเภท คือ ผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นสถาบันการเงิน และผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน หรือ นอนแบงค์ มีการใช้กฎหมายควบคุมดูแลที่ต่างกัน ทำให้การกำกับดูแลธุรกิจบัตรเครดิตทั้ง 2 ประเภทไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงมีบทกำหนดโทษแตกต่างกัน ซึ่งร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวครม.เสนอจะเป็นแนวทางในการกำกับดูแลประกอบธุรกิจ ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันและมีการคุ้มครองผู้บริโภคที่ชัดเจน เช่น ห้ามออกบัตรเครดิตให้ผู้บริโภคที่ไม่ได้ทำคำขอ การแจ้งเตือนผู้ถือบัตรเมื่อเกิดการโจรกรรมข้อมูลหรือการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ รวมถึงการตั้งศูนย์บริการลูกค้า รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับบัตรเครดิต”นายกิตติรัตน์ กล่าว

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี สส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอหลักการและเหตุผลว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวของพรรคประชาธิปัตย์ มีบทบัญญัติที่แตกต่างจากร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เนื่องจากฉบับที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอ คือ ในมาตรา 14 วรรคสอง ระบุว่า ดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ และค่าใช้จ่ายอื่นใด ให้คำนวณจากยอดต้นคงค้างที่ผู้ถือบัตรยังชำระไม่ครบจากยอดเงินต้นที่จ่ายผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น เพื่อแก้ปัญหาการติดหนี้บัตรเครดิตจำนวนมาก 

“ประเด็นนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค นอกจากนั้นแล้วหากร่างกฎหมายดังกล่าวสามารถประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ และแก้ปัญหาหนี้บัตรเครดิตได้ จะทำให้สินเชื่อบัตรเครดิตเป็นทางเลือกของคนจน”นายอรรถวิชช์ กล่าว

ขณะที่ นายพีรพันธ์ สาลีรัฐวิภาค สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวมีการพิจารณาและกำหนดบทบัญญัติที่ทำให้ทุกฝ่ายได้ดูแลและทุกฝ่ายได้ประโยชน์อย่างเท่าเทียม รวมถึงต้องป้องกันการทุจริต ฉ่อโกง ของผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย