posttoday

สู้ค่าบาทกดดอกเบี้ยต่ำ

23 กันยายน 2555

“หม่อมอุ๋ย”ชี้ดอกเบี้ยขึ้นไม่ไหว ธปท.ต้องออกพันธบัตรดูดสภาพคล่องดูแลค่าเงินบาท “ศุภวุฒิ” เตือนรับมือเงินเฟ้อ

“หม่อมอุ๋ย”ชี้ดอกเบี้ยขึ้นไม่ไหว ธปท.ต้องออกพันธบัตรดูดสภาพคล่องดูแลค่าเงินบาท “ศุภวุฒิ” เตือนรับมือเงินเฟ้อ

สู้ค่าบาทกดดอกเบี้ยต่ำ

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีต รมว.คลัง และอดีตผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมมนา “วิกฤตยูโรโซนและผลกระทบต่ออุตสาหกรรมธุรกิจยานยนต์ไทย” ว่า ปัญหาเศรษฐกิจยูโรและสหรัฐอเมริกาจะต้องแก้ไขอีกนาน และสหรัฐคงดอกเบี้ยต่ำไว้ที่ระดับ 0-0.25% ไปเรื่อยๆ มีผลให้เงินไหลเข้าเอเชียและทำให้ค่าเงินเอเชียแข็ง รวมถึงเงินบาทด้วย

ด้านผลกระทบต่อไทย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า จะต้องติดตามดูว่า ธปท.จะแทรกแซงเงินบาทไม่ให้แข็งค่าได้มากแค่ไหน เชื่อว่าเอเชียไม่น่าจะเป็นเหยื่อปล่อยให้ค่าเงินแข็งค่าเร็วและคงไม่ปล่อยให้เงินทุนไหลเข้ามาได้ง่ายๆ ในภาวะนี้ดอกเบี้ยไทยไม่เพิ่มแน่ๆ เพราะ ธปท.ต้องออกพันธบัตรดูดซับสภาพคล่องเพื่อดูแลอัตราแลกเปลี่ยนรวมถึงเงินบาทแข็ง

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจยูโรน่าจะยืดเยื้อไปอีกเป็น 10 ปี เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาและสร้างการจ้างงานใหม่ได้

สำหรับสหรัฐอเมริกาอัดฉีดเงินรอบที่ 3 (คิวอี 3) ก็ไม่น่าจะช่วยแก้ปัญหาการว่างงานที่สูงกว่า 8% ได้ เพราะการมีปริมาณเงินในตลาดการเงินที่สูงมากเป็น 3เท่าของเศรษฐกิจจริง ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาการว่างงาน การผลิต และดึงเศรษฐกิจจริงให้คนในประเทศมีกำลังซื้อและลงทุนเพิ่มได้

ด้านนายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร กล่าวว่า แนวโน้มเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นและมีโอกาสเกิดปัญหาเงินเฟ้อได้ จากปริมาณเงินที่ไหลเข้ามามากและดอกเบี้ยคงยังไม่ขยับขึ้น

แนวโน้มสหรัฐน่าจะมีการพิมพ์เงินออกมาเรื่อยๆ ไปจนถึงปี 2558 และไม่ต้องกลัวเงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่า ที่สำคัญสหรัฐไม่กลัวเงินเฟ้อ น่าจะปล่อยอัตราดอกเบี้ยต่ำไปเรื่อยๆ ด้วย จนกว่าจะแก้ปัญหาได้  

“สหรัฐน่าจะใส่เงินเข้าไปในระบบไปเรื่อยๆ ปัญหาคือ ใส่เข้าไปเท่าไรก็ไม่พอ เพราะรัฐบาลใช้เงินเยอะมาก มีปัญหาการคลังมานาน ประเมินว่าเศรษฐกิจน่าจะโตแค่ 2%” นายศุภวุฒิ กล่าว

ขณะนี้ยูโรโซนยังไม่ได้ข้อสรุปการแก้ปัญหาที่ชัดเจน ยังไม่แน่ว่ากรีซจะออกจากกลุ่มหรือไม่ เศรษฐกิจของประเทศเล็กๆ แย่ลงค่อนข้างมาก เจ้าหนี้ก็ขอให้มีมาตรการรัดเข็มขัด คาดว่าเศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้าจะโตติดลบ 0.7% และคงล้มลุกคลุกคลานไปอีกนาน