posttoday

ไฟเขียวเว้นภาษีกองทุนสำรองฯกรณีลาออก

20 กันยายน 2555

คลังกระตุ้นการออมเพื่อการเกษียณ ให้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ กรณีลาออก แต่คงเงินในกองทุนถึง 55 ปี

คลังกระตุ้นการออมเพื่อการเกษียณ ให้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ กรณีลาออก แต่คงเงินในกองทุนถึง 55 ปี

ไฟเขียวเว้นภาษีกองทุนสำรองฯกรณีลาออก

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเห็นชอบแก้ไขหลักเกณฑ์ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ให้สิทธิยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้ไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับลูกจ้างที่ออกจากงานก่อนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ แต่ยังคงเงินสะสมและผลประโยชน์ทั้งจำนวนไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจนถึงอายุครบ 55 ปี โดยให้ครอบคลุมในกรณีลูกจ้างเสียชีวิตหรือทุพพลภาพด้วย

ทั้งนี้ การแก้ไขหลักเกณฑ์ดังกล่าว ต้องการกระตุ้นให้ลูกจ้างออมเงินระยะยาวเพื่อไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณอายุ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่สมาชิกกองทุนเพื่อการเกษียณโดยทั่วไปได้สิทธิอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งก่อนหน้านี้ ลูกจ้างจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเฉพาะกรณีเกษียณอายุ เสียชีวิต หรือออกจากงานเพราะทุพพลภาพเท่านั้น

นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า กระทรวงการคลังยังสานต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยขยายเวลา 10 มาตรการช่วยเหลือนักลงทุน ผู้ประกอบการ และประชาชนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกไปอีก 2 ปี จากเดิมที่สิ้นสุด 31 ธ.ค. 55 เป็น 31 ธ.ค. 57

สำหรับ 10 มาตรการดังกล่าว อาทิ มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 3% การลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลือ 0.1% ชดเชยส่วนต่างเบี้ยประกันคุ้มครองภัยก่อการร้ายในอัตรา 0.3 – 2%

ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังได้สิทธิ์ลดภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย จากการขายอสังหาริมทรัพย์เหลือ 0.1% ลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะเหลือ 0.1% ลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการโอนเหลือ 0.01% ของราคาประเมิน และลดค่าจดจำนองเหลือ 1% แต่ไม่เกิน 2 แสนบาท

นอกจากนี้ ยังมาตรการส่งเสริมการลงทุนเป็นกรณีพิเศษใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 3 ปี แต่ไม่เกิน100% ของมูลค่าการลงทุน สำหรับโครงการใหม่จะได้รับการยกเว้นภาษีนิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปี