posttoday

ภาษีทรุด!ต่ำกว่าเป้าอื้อ

13 กันยายน 2555

พิษนโยบายลดภาษีของรัฐบาลออกฤทธิ์ทำให้รายได้ปีนี้หลุดเป้าหมาย 5 หมื่นล้าน จากที่ตั้งไว้ 1.98 ล้านล้านบาท

พิษนโยบายลดภาษีของรัฐบาลออกฤทธิ์ทำให้รายได้ปีนี้หลุดเป้าหมาย 5 หมื่นล้าน จากที่ตั้งไว้ 1.98 ล้านล้านบาท

นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง ซึ่งกำกับดูแลกรมจัดเก็บภาษี เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลน่าจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.98 ล้านล้านบาทแน่นอน แต่ก็คาดว่าจะต่ำกว่าเป้าหมายไม่น่าจะเกิน 5 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีรายได้น้อยลง แต่จะไม่ส่งผลกระทบกับการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาล เพราะการเบิกจ่ายยังทำได้ต่ำกว่าเป้าหมาย หลายโครงการที่ต้องการเบิกจ่ายก็ยังไม่จำเป็นต้องใช้เงิน

รมช.คลัง ชี้แจงว่า สาเหตุที่ทำให้การเก็บภาษีต่ำกว่าเป้าหมายมาจากการเก็บภาษีของกรมสรรพากรที่คาดว่าจะต่ำกว่าปกติ เนื่องจากการลดภาษีนิติบุคคลลงมาจาก 30% เหลือ 23% การเปลี่ยนวิธีหักค่าเสื่อมของสถาบันการเงินที่ทำให้มีรายได้และกำไรลดลง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่ออกกฎหมายให้ผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิสามารถนำรายจ่ายด้านการลงทุนด้านพลังงานสีเขียวมาหักลดหย่อนจากภาษีได้โดยตรงทั้งหมด

มาตรการทางภาษีทั้ง 3 รายการ ทำให้กรมสรรพากรสูญเสียรายได้รวมไปไม่น้อยกว่า 8 หมื่นล้านบาท โดยการลดภาษีนิติบุคคลจะสูญเสียรายได้ 5.5 หมื่นล้านบาท การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของบีโอไอจะสูญเสียรายได้ไม่น้อยกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท และกรณีการตั้งสำรองของระบบสถาบันการเงินทำให้รายได้หายไปประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ เป้าหมายการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในปีนี้ตั้งไว้ 1.62 ล้านล้านบาท โดยการจัดเก็บได้ที่ต่ำกว่าเป้าหมายของกรมสรรพากรถือเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี นับจากปี 2553 โดยปี 2553 มียอดการจัดเก็บสูงกว่าเป้าหมาย 15.2% และในปี 2554 สูงกว่าเป้าหมาย 16.1%

นอกจากนี้ ยังเป็นผลกระทบจากการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลตามนโยบายของรัฐบาล ที่ทำให้ภาษีของกรมสรรพสามิตหายไปจำนวนมาก แต่ยังได้ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และการขึ้นภาษีสุราและบุหรี่ ที่ทำให้การเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น

ก่อนหน้านี้ นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร ออกมาเปิดเผยว่า กรมสรรพากรจะเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้า 1.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมสรรพสามิต ระบุว่า จะเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้า 1.4 หมื่นล้านบาท

นายทนุศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการเก็บภาษีของกรมศุลกากรนั้น น่าจะทำได้เกินเป้าหมายกว่า 1 หมื่นล้านบาท อันเป็นผลมาจากการขยายตัวของการนำเข้าสินค้า เครื่องจักร และวัตถุดิบตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทำให้ภาพรวมของการเก็บรายได้ของรัฐบาลลดลงกว่าเป้าหมายน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น

รมช.คลัง ยืนยันว่า ถึงแม้จะมีการเก็บรายได้ที่ต่ำกว่าเป้าหมาย ก็ไม่กระทบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เป็นหน่วยงานที่คาดการณ์เศรษฐกิจอย่างระมัดระวังที่สุด ยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ถึง 5.7% จึงคาดว่าในปีหน้าการจัดเก็บรายได้และการขยายตัวของเศรษฐกิจจะดีกว่าปีนี้