posttoday

ฟันธงคงดอกเบี้ย

25 กรกฎาคม 2555

กูรูคาด กนง.คงดอกเบี้ยที่ 3% แย้มอาจเห็นดอกเบี้ยลงก่อนสิ้นปี

กูรูคาด กนง.คงดอกเบี้ยที่ 3% แย้มอาจเห็นดอกเบี้ยลงก่อนสิ้นปี

น.ส.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า คาดว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 25 ก.ค. จะมีมติให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3% แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากวิกฤตการเงินในยุโรปที่เริ่มส่งผลต่อภาคการส่งออกซึ่งมีสัดส่วนถึง 70% ของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย เนื่องจากในช่วงภาวะน้ำท่วมไทยมีการลดดอกเบี้ยไปแล้วถึง 0.50% และยังไม่มีการปรับขึ้นแม้ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวแล้ว ประกอบกับแรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลงในขณะนี้จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก

“หากไม่มีเหตุการณ์น้ำท่วมที่ทำให้เราต้องลดดอกเบี้ยล่วงหน้า เทรนด์ดอกเบี้ยตอนนี้ถือเป็นขาลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ธนาคารกลางหลายประเทศมีการลดดอกเบี้ยลง แต่เชื่อว่า กนง.จะคงไว้ที่ 3% ก่อน เพื่อเป็นกระสุนสำรองในยามจำเป็น” น.ส.สุทธาภา กล่าว

น.ส.สุทธาภา กล่าวว่า การคงดอกเบี้ยอาจส่งผลให้มีเงินไหลเข้ามาในประเทศบ้าง แต่ค่าเงินบาทขณะนี้ยังอยู่ในระดับที่แข่งขันกับคู่แข่งได้ ไม่ได้แข็งค่าเร็วเกินไปจึงยังไม่น่ากังวล โดยคาดว่าเงินบาทปีนี้จะเคลื่อนไหวระหว่าง 30-32.5 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

ด้านนายตรรก บุนนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดเงินในภูมิภาครวมถึงไทยเริ่มมีปฏิกิริยาต่อทิศทางดอกเบี้ยไปในขาลง เห็นได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและสวอปเรตที่ลดลงล่วงหน้าไปแล้ว ตามการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางในภูมิภาค เช่น จีน เกาหลี ออสเตรเลีย

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าที่ประชุม กนง.น่าจะยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3% เพื่อรอดูความเสี่ยงจากปัจจัยเงินเฟ้อให้ชัดเจนก่อน แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจะส่งผลให้แรงกดดันเงินเฟ้อมีน้ำหนักลดลง โดยเชื่อว่าจะทำให้ กนง.ต้องลดดอกเบี้ยลงก่อนสิ้นปี

ขณะที่ นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า มีความเป็นได้ที่ กนง. จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 3% ในการประชุมวันที่ 25 ก.ค. เพื่อรอดูความชัดเจนของภาวะเงินเฟ้อที่เริ่มชะลอตัวลงตามราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์โลก ก่อนจะปรับลดลงในการประชุมครั้งถัดไป

แหล่งข่าว กนง. เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้บวกกับข้อมูลจริงของภาวะเศรษฐกิจในเดือน พ.ค.ปีนี้แล้ว มองว่าจังหวะนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสเกิดได้ 2 กรณี คือ ยืนไว้ที่ระดับ 3% และปรับลดลงจากปัจจุบันเล็กน้อย เพื่อเป็นหนึ่งในเครื่องมือช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ได้รับ|ผลกระทบจากวิกฤตยูโรและภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอ

“จังหวะนี้ดอกเบี้ยจะยืนไว้เท่าเดิมก็ได้ จะลดลงก็ได้ เพราะว่าตอนนี้ตลาดรับข่าวต่างๆ จากยูโรโซนไปเยอะแล้ว แต่ถามว่าการที่ยูโรเขามีปัญหากระทบเรามากหรือไม่ ดูปัจจุบันนี้ถือว่าไม่มาก ทำให้ไม่ห่วงมากนัก” แหล่งข่าว กนง.เปิดเผย

แหล่งข่าว กนง. เปิดเผยต่อว่า สาเหตุที่ระบุว่าภาวะเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเอเชียและไทยยังไม่น่าห่วง เนื่องจากประเทศเหล่านี้ยังมีลูกเล่นในการดูแลและกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีก ต่างจากสหรัฐและยุโรป ที่ติดเพดานทั้งด้านนโยบายการคลังและนโยบายการเงิน อีกอย่างเศรษฐกิจไทยก็ยังเข้มแข็ง เติบโตได้ดี จีดีพีปีนี้ก็ยังมีโอกาสโตได้ที่ 6%

น.ส.อุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่า กนง. น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3% เท่าเดิม เพราะตราบใดที่ ธปท. และภาครัฐยังประเมินจีดีพีปีนี้โตในระดับ 6% ก็ไม่ต้องรีบตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง ยกเว้นเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยุโรปเลวร้ายลงมากขึ้น