posttoday

เตือน!!อีก10ปีศก.ไทยพังเหมือนกรีซ

02 กรกฎาคม 2555

นักวิชาการทีดีอาร์ไอฟันธง อีก10ปีเศรษฐกิจไทยพังเหมือนกรีซ หากรัฐบาลยังเดินหน้าทุ่มนโยบายประชานิยม

นักวิชาการทีดีอาร์ไอฟันธง อีก10ปีเศรษฐกิจไทยพังเหมือนกรีซ หากรัฐบาลยังเดินหน้าทุ่มนโยบายประชานิยม

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ประชุมคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม วุฒิสภา ซึ่งมี นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ส.ว.สรรหา เป็นประธานกรรมาธิการ มีวาระพิจารณาศึกษา และวิเคราะห์นโยบาย ประชานิยมของรัฐบาลที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาเศรษฐกิจไทย โดยได้เชิญ นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาเศรษฐกิจส่วนรวมและการกระจายรายได้ สถาบันการวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)  และ  นายวิชัย พยัคโส คณบดีคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญญบุรี เข้าให้ข้อมูล

นายสมชัย กล่าวว่า นโยบายประชานิยมของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีความเข้มข้นกว่านโยบายประชานิยมสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยเนื่องจากใช้งบประมาณที่สูงกว่า เช่น นโยบายบ้านหลังแรก นโยบายรถคันแรก จึงเป็นผลให้โครงการประชานิยมขณะนี้ ทำลายระบบกลไกตลาด และเพิ่มความเหลื่อมล้ำมากยิ่งขึ้น ส่วนบุคคลที่ได้ประโยชน์จากนโยบายประชาชนยุคนี้เป็นกลุ่มคนชั้นกลางระดับบนขึ้นไป ส่วนคนจนที่สุดในสังคมไม่ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง 

“ผมมองว่าหากประเทศไทยยังคงทำแต่เรื่องนโยบายประชานิยม ไม่เกิน 10 ปีเศรษฐกิจของประเทศไทยจะล่มสลายเหมือนอย่างในประเทศกรีซ เพราะโครงการประชานิยม ส่งผลต่อเศรษฐกิจมหภาคอย่างรุนแรงมาก โดยเฉพาะภาวะเงินเฟ้อ เกิดหนี้สาธารณะรุนแรง และทำลายระบบกลไกของตลาด ซึ่งโครงการประชานิยมของไทยที่เข้าข่ายทำลายกลไกตลาดสูงมาก คือ โครงการรับจำนำข้าว”นายสมชัยกล่าว

นายวิชัย กล่าวว่า จากการสำรวจเรื่องของคนว่างงานของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ รอบเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวนคนว่างงาน 3.6 แสนคนโดยในจำนวนดังกล่าวเป็นคนจบการศึกษาใหม่ถึง 1.5 แสนคน และในปี 2555 จะมีบุคคลที่จบการศึกษา กว่า 3.5 แสนคน จึงกลายเป็นปัญหาว่ากลุ่มดังกล่าวจะทำงานที่ไหน

“ตัวเลขของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ ได้ส่งสัญญาณให้รัฐบาลไทยรับรู้ ถึงปัญหาการว่างงานที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะรับรู้หรือไม่ เนื่องจากในระบบการเมืองที่แบ่งขั้วชัดเจน เขาต้องต่อสู้เพื่อให้ได้ความนิยมจากประชาชน ดังนั้นต่อจากนี้ไปประชานิยมจะมีมากขึ้น เพราะเขาต้องการอำนาจทางการเมืองให้เหนือกว่าพรรคการเมืองอื่น ซึ่งประเด็นนี้ผมมองว่าเป็นอันตรายมาก”นายวิชัย กล่าว