posttoday

สั่งฟันศุลกากรเอี่ยวรถหรู

23 พฤษภาคม 2555

เลขาฯ ป.ป.ท.ส่งข้อมูลให้อธิบดีกรมศุลฯ เชือด 40 เจ้าหน้าที่ประจำด่านพบเอี่ยวขบวนการลักลอบนำรถหรูเลี่ยงภาษี 222 บริษัท มูลค่าเสียหายหมื่นล้าน

เลขาฯ ป.ป.ท.ส่งข้อมูลให้อธิบดีกรมศุลฯ เชือด 40 เจ้าหน้าที่ประจำด่านพบเอี่ยวขบวนการลักลอบนำรถหรูเลี่ยงภาษี 222 บริษัท มูลค่าเสียหายหมื่นล้าน

พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยว่า ป.ป.ท.ได้หารือกับนายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากร หลังจากตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่ประจำด่านกรมศุลกากรระดับ 7 ที่ประจำเขตท่าเรือแหลมฉบัง คลองเตย ระยอง ฯลฯ จำนวน 40 คน ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการนำเข้ารถยุโรปจำนวน 1,500 คัน รถมินิคูเปอร์ 600 คัน รถญี่ปุ่น 2,000-3,000 คัน รวมประมาณ 5,000 คัน มูลค่าความเสียหาย 1 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ มีบริษัทที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการนำรถดังกล่าวเข้ามารวม 222 บริษัท และน่าเชื่อว่าในจำนวนนี้เป็นการเปิดบริษัทบังหน้าและไม่มีตัวตนจริง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

สั่งฟันศุลกากรเอี่ยวรถหรู

พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า จากการตรวจสอบบริษัทนำเข้ารถหลีกเลี่ยงภาษีนั้นพบพิรุธหลายประเด็น ทั้งการแสดงราคาซื้อรถยนต์ต่ำกว่าปกติถึง 60% ซึ่งเป็นไปไม่ได้ บางคันมีประวัติการซ่อมบำรุงทั้งๆ ที่เป็นรถยนต์ใหม่ รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงสกุลเงินจากเงินปอนด์เป็นเงินเหรียญสหรัฐ และมีการซื้อขายราคาต่ำกว่าความเป็นจริง โดยการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่ามีการทำเป็นขบวนการและมีการปกปิดข้อเท็จจริงในใบสำแดงภาษีให้เป็นเท็จเพื่อนำรถออกมา บางบริษัทแสดงใบขนส่งทางอากาศ แต่ข้อเท็จจริงมีการสำแดงการเสียภาษีนำเข้าทางท่าเรือแทน

“ทางอธิบดีกรมศุลกากรได้รับที่จะเข้าไปดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของตนเอง ซึ่ง ป.ป.ท.ขอให้เจ้าหน้าที่ที่มีรายชื่อทั้ง 40 คน ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าผลการตรวจ สอบจะแล้วเสร็จ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำรถเข้ามา และ ป.ป.ท.จะส่งรายชื่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ ป.ป.ช. (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ดำเนินการในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป” พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าว

เลขาธิการ ป.ป.ท.ยังกล่าวอีกว่า การทำผิดของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรน่าจะมีบริษัทเอกชนเป็นผู้ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะต้องถูกตั้งข้อหาในฐานะผู้สนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ทำผิด โดย ป.ป.ท.จะขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำคดีฟอกเงิน และขอให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าไปอายัดทรัพย์สิน

ด้านนายสมชาย กล่าวว่า พร้อมตรวจสอบตามข้อมูล ป.ป.ท.ส่งมาให้ตรวจสอบ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการนำเข้ารถไม่ถูก ต้องทำให้เกิดความเสียหายก็จะดำเนินการเอาผิดทันทีโดยไม่มีการผ่อนผันให้ สำหรับการตรวจสอบการนำเข้ารถพบว่ามีการนำเข้ารถบางรุ่นราคาไม่สอดคล้องกันจริง และได้ทำเรื่องให้บริษัทนำเข้ารถยนต์ส่งข้อมูลให้กรมตรวจสอบ รวมถึงยังได้ขอข้อมูลไปยังบริษัทต่างประเทศที่ส่งรถเข้ามาขาย แต่ได้รับการปฏิเสธ