posttoday

บลจ.กสิกรไทยตั้งกองทุนหุ้นกู้เอกชน3ปี

04 มีนาคม 2553

บลจ.กสิกรไทย ขานรับกระแสกองทุนตราสารหนี้เอกชนในประเทศ ปิดกองทุนแรกยอดขาย 4 พันล้านบาท ดันกองทุนใหม่ อายุ 3 ปี 2 เดือน 

บลจ.กสิกรไทย ขานรับกระแสกองทุนตราสารหนี้เอกชนในประเทศ ปิดกองทุนแรกยอดขาย 4 พันล้านบาท ดันกองทุนใหม่ อายุ 3 ปี 2 เดือน 

น.ส.ยุพาวดี  ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 39 เดือน (KFI39MA) ซึ่งเน้นลงทุนในตราสารหนี้เอกชนและรัฐวิสาหกิจ อายุโครงการประมาณ 3 ปี 3 เดือน เมื่อวันที่ 18-25 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนอย่างสูงและสามารถระดมทุนได้ถึง 4,027.37 ล้านบาท บริษัทจึงเตรียมเปิดขายกองทุนตราสารหนี้เอกชนกองทุนใหม่คือ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 38 เดือน เอ (KFI38MA)  อายุโครงการประมาณ 3 ปี 2 เดือน ขนาดกองทุน 4,000 ล้านบาท เปิดขายในวันที่ 5-12 มี.ค.นี้

“จากกระแสตอบรับที่ดีทำให้บลจ.กสิกรไทย ยังคงให้ความสำคัญกับการคัดเลือกตราสารหนี้เอกชนในประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment Grade และมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาว โดยตราสารที่กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 38 เดือน เอ คาดว่าจะลงทุนในเบื้องต้น ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัทในกลุ่มธุรกิจขนส่งและคมนาคม พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ รวมถึงกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ อาทิ หุ้นกู้ของบริษัททางด่วนกรุงเทพ ,บริษัท ควอลิตี้เฮาส์ , บริษัทเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ , บริษัทเกียรตินาคิน และบริษัทบัตรกรุงไทย  ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของผู้ออกตราสาร โดย ทริส เรทติ้ง ที่ A / A- / A- / A-  และ BBB+ ตามลำดับ เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อคเงินเข้าลงทุนในระยะยาวจากการลงทุนหุ้นกู้ชั้นดี อย่างไรก็ตาม ตราสารที่จะลงทุนอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวการณ์ที่เหมาะสม“ น.ส.ยุพาวดีกล่าว

สำหรับโอกาสรับผลตอบแทน น.ส.ยุพาวดี กล่าวว่า ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 38 เดือน เอ สูงกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอายุประมาณ 3 ปี ซึ่ง ณ วันที่ 26 ก.พ.2553 ให้ผลตอบแทนหลังหักภาษี อยู่ที่ประมาณ 2.24% ในขณะที่เงินฝากประจำ 3 ปี ก่อนหักภาษี อยู่ที่ประมาณ 1.49% เท่านั้น