ไทยเบฟดันแรงเยอร์ชิงอันดับ3ในตลาดชูกำลัง

ไทยเบฟ ทุ่ม 100 ล้าน ฟื้นแบรนด์แรงเยอร์ ชิงตลาดชูกำลัง หวัง 3 ปี ขึ้นที่ 3 เบียดคาราบาวแดง

นายมารุต บูรณะเศรษฐกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง เปิดเผยว่า ได้ใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ในการทำตลาดสินค้าเครื่องดื่มชูกำลังภายใต้แบรนด์ "แรงเยอร์" อีกครั้ง หลังจากบริษัทฯได้ซื้อกิจการแรงเยอร์มาเมื่อ 2 ปีก่อน โดยได้ปรับปรุงรสชาติ บรรจุภัณฑ์ ฉลากและสีสันใหม่ เพื่อชิงตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า 15,000 ล้านบาทในประเทศไทย

ก่อนหน้านี้ แรงเยอร์ เคยมีส่วนแบ่งตลาด 10-15% ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง และก่อนหน้าที่ไทยเบฟจะซื้อกิจการ ส่วนแบ่งลดเหลือ 2-3% จากตลาด การกลับเข้ามาทำตลาดอีกครั้งในปีนี้ หวังจะมีส่วนแบ่งตลาดเป็น 5% ในปีนี้ และภายใน 3 ปี จะมีส่วนแบ่งมากกว่า 10% เป็นอันดับ 3 รองจากเอ็ม - 150 ที่มีส่วนแบ่ง
55% กระทิงแดง 20% ปัจจุบันคาราบาวแดง เป็นอันดับ 3 มีส่วนแบ่งประมาณ 10%

สำหรับกลยุทธ์หลักในการทำตลาดแรงเยอร์ จะเน้นกระจายสินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภคให้มากที่สุด โดยอาศัยเครือข่ายการจัดจำหน่ายของบริษัท ไทยเบฟ ทั้งในส่วนเอเยนต์ที่มีอยู่กว่า 500 ราย และร้านค้าปลีก ที่มีรถเร่ อีกอย่างน้อย 2.8 แสนร้านค้าทั่วประเทศ โดยสัดส่วนการขายหลักจะมาจากช่องทางร้านค้าปลีกแบบ
เดิม 80% ร้านสะดวกซื้อ 10% อีก 10% มาจากช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่

"เมื่อเข้ามาอยู่ในไทยเบฟ ก็ต้องอาศัยความแข็งแกร่งของไทยเบฟ ในการขยายตลาด โดยไม่มีนโยบายขายพ่วงใด ๆ อีกต่อไป สำหรับแรงเยอร์เรามีบันไดที่จะก้าวสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้งภายใน 3-5 ปีนี้" นายมารุตกล่าว

สำหรับผลิตภัณฑ์แรงเยอร์ เป็นส่วนหนึ่งของการทำตลาดสินค้าไม่มีแอลกอฮอล์ของกลุ่มไทยเบฟ ซึ่งปัจจุบันมีสินค้า อาทิ น้ำดื่ม, โซดา, เครื่องดื่มเกลือแร่พาวเวอร์พลัสและแรงเยอร์ และยังมีโครงการผลิตสินค้าอีก 4-5 รายการในปีนี้  สำหรับปีที่ผ่านมา สินค้าไม่มีแอลกอฮอล์มีรายได้ราว 1.4-1.5 พันล้านบาท ปีนี้
คาดว่าจะมียอดขายรวม 2 พันล้านบาท เป็นรายได้จากแรงเยอร์ 750 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 480 ล้านบาท