posttoday

เปิดตัว กองทุนเปิด ยูไนเต็ด แบตเตอรี่ แอนด์ อีวี เทคโนโลยี ฟันด์ (UEV)

03 มีนาคม 2564

บลจ. ยูโอบี ชูการลงทุนในหุ้นโลกกลุ่มนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า โอกาสขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต เสนอขายครั้งแรก 5 – 12 มีนาคม 2564 นี้

นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “การเปลี่ยนแปลง จากรถยนต์ใช้น้ำมันสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้า เป็นความก้าวหน้าและพัฒนาการของเทคโนโลยีในหลายด้าน ซึ่งทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีจุดเด่นหลายอย่างที่เหนือกว่ารถยนต์ในปัจจุบันอย่างมาก รวมถึงการตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่นับวันยิ่งมีปัญหารุนแรงมากขึ้น เกี่ยวกับมลพิษและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลต่างๆทั่วโลกที่ส่งเสริมและรณรงค์ให้คำนึงถึงการจำกัดและลดปริมาณการปล่อยสารพิษที่ส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด จะเห็นได้ว่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก (EV) ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง โดยตลาด EV ทั่วโลกคาดว่าจะมีสัดส่วนประมาณ 30-40% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดในปี 2573 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนเพียง 2.5% ในปี 2562

“ปัจจุบันเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เติบโตและเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายอย่างมากทั้งประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ ยุโรปสหรัฐอเมริกาญี่ปุ่น รวมถึงจีนและเกาหลีใต้ นอกจากนี้ห่วงโซ่อุปทานของรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิตแบตเตอรี่ กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดเช่นกัน ธุรกิจที่ผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม (Lithium) ได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของตลาดรถยนต์ EV โดยตลาดแบตเตอรี่ลิเทียมยังเป็นวัตถุดิบหลักที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 24% ต่อปี ช่วงสิบปีข้างหน้า (ปี 2573) รวมถึงส่วนประกอบของรถยนต์ไฟฟ้าและระบบส่งกำลังไฟฟ้า ที่รวมถึงมอเตอร์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย ปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ รัฐบาลของประเทศต่างๆทั่วโลก ได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบหรือกฎหมายที่เริ่มบังคับให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดการปล่อยมลพิษ (Zero Emission Vehicle) ให้เข้มงวดขึ้น และรณรงค์การใช้พลังงานสะอาดกันอย่างจริงจัง โดยล่าสุดนโยบาย “Buy America” ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่มีแผนการจะเปลี่ยนรถของรัฐบาลกลางมากกว่า 600,000 คัน เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในสหรัฐ ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ภาคเอกชนเตรียมการลงทุนในสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและการผลิตแบตเตอรี่ รวมไปถึงการอัพเกรดการผลิตไฟฟ้าและระบบการส่งไฟฟ้าทั่วประเทศ ตลอดจนการเพิ่มจำนวนเครือข่ายระบบชาร์จไฟฟ้า เพื่อรองรับความต้องการที่จะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต การตื่นตัวและแรงผลักดันเหล่านี้มีส่วนสำคัญที่ส่งผลให้อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ามีการเติบโตและมีแนวโน้มที่จะเข้ามาแทนที่รถยนต์ระบบเดิมในอนาคต บลจ. ยูโอบี จึงร่วมคว้าโอกาสทางการลงทุนในนวัตกรรมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ด้วยการเปิดตัวกองทุนเปิด ยูไนเต็ด แบตเตอรี่ แอนด์ อีวี เทคโนโลยี ฟันด์ (UEV) เพื่อนักลงทุน และถือว่าเราเป็นหนึ่งในผู้นำที่ออกกองทุนในธีม EV ในประเทศไทยอีกด้วย”

กองทุนเปิด ยูไนเต็ด แบตเตอรี่ แอนด์ อีวี เทคโนโลยี ฟันด์ (UEV) มีโครงสร้างกองทุนประเภท Fund of funds ที่ลงทุนผ่านกองทุน RobecoSAM Smart Mobility Equities Fund (กองทุนหลัก) และกองทุน Global X Lithium & Battery Tech ETF (กองทุนหลัก) บริหารโดย Robeco และ Global X Management Company โดยในส่วนกองทุนของ RobecoSAM Smart Mobility Equities Fund มีกลยุทธ์การบริหารกองทุนแบบ Active โดยทีมผู้เชี่ยวชาญบริหารการลงทุน เน้นลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลายเช่น ธุรกิจการขายชิ้นส่วนการผลิต EV ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ และเครื่องส่งกำลังไฟฟ้า (EV component suppliers) โรงงานผู้ผลิตรถยนต์ EV และระบบ software ในการติดตั้ง (EV car manufacturers & Subsystem suppliers) ระบบโครงข่ายไฟฟ้า เครื่องชาร์ตไฟและเทคโนโลยีการส่งไฟฟ้า (Electrical grid & Charging Infrastructure) AI การเชื่อมต่อและการขนส่งสาธารณะ (Vehicle connectivity & Autonomous driving) โดยกองทุน RobecoSAM Smart Mobility Equities Fund (กองทุนหลัก) สามารถสร้างผลการดำเนินงาน 1 ปี ย้อนหลังที่โดดเด่นถึง 51.2%* ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์อ้างอิง benchmark MSCI World Index TRN อยู่ที่ 44.8% (ที่มา Robeco, 30 ธ.ค. 2563)

นอกจากนี้กองทุน UEV จะกระจายไปลงทุนอีกส่วนหนึ่งไปยัง กองทุน Global X Lithium & Battery Tech ETF เป็นกองทุน ETF ที่ลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวเนื่องและอยู่ในสายการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมเต็มรูปแบบ (The full lithium value chain) ตั้งแต่การขุดค้นและการกลั่นจนถึงการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม ซึ่งกองทุนสร้างผลการดำเนินงาน 1 ปี ย้อนหลัง อยู่ที่ 127.6%** ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์อ้างอิง ดัชนี Solactive Global Lithium Index ที่ 2.1% (ที่มา Global X, 30 ธ.ค. 2563)

นางสาวรัชดา กล่าวว่า การผสมผสานการลงทุนทั้งแบบ Active จากการลงทุนในกองทุน RobecoSAM Smart Mobility Equities Fund และแบบ passive ในกองทุน Global X Lithium & Battery Tech ETF นั้น จะส่งผลให้นักลงทุนได้รับประโยชน์จากการกระจายการลงทุนในหุ้นกลุ่มธุรกิจธีม EVs และกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรม EV ผ่านการคัดเลือกบริษัทที่ลงทุนโดยผู้เชี่ยวชาญจาก Robeco บนกระบวนการการลงทุนที่เข้มงวด ในขณะเดียวกันกองทุน UEV ก็มีการกระจายการลงทุนที่เน้นลงทุนในกลุ่มธุรกิจแบตเตอรีลิเทียม (Lithium) ผ่าน Global X Lithium & Battery Tech ETF ที่เราเชื่อมั่นว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดดไปพร้อมกับกลุ่มธุรกิจ EV ดังนั้น บลจ. ยูโอบี จึงมีความมั่นใจแนะนำ กองทุน UEV แก่นักลงทุน เพื่อเสริมพอร์ตการลงทุนให้มีโอกาสเติบโตไปพร้อมกับกระแสยานยนต์ EV ในอนาคต ประกอบกับปัจจุบันเป็นช่วงที่ราคาของหุ้นกลุ่มธุรกิจ EV มีการปรับตัวย่อลงมาบ้างในช่วงที่ผ่านมาจากสถานการณ์โควิด-19 เราจึงมองว่าเป็นจังหวะที่น่าสนใจในการเข้าลงทุน เพื่อโอกาสได้รับผลตอบแทนที่แข็งแกร่งในระยะยาว

นักลงทุนที่สนใจลงทุนกองทุน UEV สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำเพิ่มเติมและหนังสือชี้ชวนได้ที่ผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และ/หรือผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอิสระ และ/หรือบลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด โดยนักลงทุนสามารถทำรายการซื้อกองทุนผ่านช่องทางบริการอิเล็กทรอนิกส์ บริการ ‘Premier Online’ ที่ https://echannel.uobam.co.th/fundcyber/Account/Login หรือ ผ่านทาง ‘UOBAM Invest’ mobile application ซึ่งเป็นช่องทางที่อำนวยความสะดวกในการทำรายการได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย สำหรับลูกค้าที่ยังไม่มีบัญชีกองทุนและสนใจลงทุน สามารถขอรับคำแนะนำในการลงทุนและเปิดบัญชีกับ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด ได้โดยตรง ติดต่อได้ที่ งานบริการนักลงทุน โทร. 0-2786-2222 หรือ [email protected]