posttoday

KTAM เปิดขายกองทุน SSF ปกติ 7 กองทุน

02 กรกฎาคม 2563

KTAM เปิดขายกองทุน SSF ปกติ 7 กองทุน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัททำการเปิดเสนอขายกองทุนรวมชนิดเพื่อการออม 7 กองทุน ให้ผู้ลงทุนสามารถเริ่มลงทุนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป เพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้ครอบคลุมนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกผสมผสานจัดพอร์ตการลงทุนได้ตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และความเหมาะสมของผู้ลงทุน โดยกองทุนรวมชนิดเพื่อการออม หรือ SSF จำนวน 7 กองทุน ประกอบไปด้วย

1 กองทุนเปิดกรุงไทย 70/30 เพื่อการออม (ชนิดเพื่อการออม) (KT70/30S-SSF) เป็นกองทุนรวมผสม ที่มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนใน SET เป็นหลัก โดยมีการบริหารกลยุทธ์แบบ Active Management ซึ่งเป็นทีมงานบริหารเดียวกันกับกองทุน KTLF70/30

2 กองทุนเปิดกรุงไทย พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล (ชนิดเพื่อการออม) (KT-PIF-SSF) เป็นกองทุนรวมผสม ที่มีนโยบายเน้นลงทุนหน่วยลงทุนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือหน่วยลงทุนกองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนภายใต้ดังกล่าว กองทุนนี้ลงทุนแบบกระจุกตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ หรือ โครงสร้างพื้นฐาน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินจำนวนมาก

3 กองทุนเปิดกรุงไทย ก่อการดี (ชนิดเพื่อการออม) (KTESGS-SSF) เป็นกองทุนรวมดัชนี ที่มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยกองทุนจะพยายามสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีผลตอบแทนรวม อีเอสจี ไทยพัฒน์ (Thaipat ESG Index (TR))

4 กองทุนเปิดกรุงไทยมั่งคั่ง เพื่อการออม (ชนิดเพื่อการออม) (KTMUNG –SSF) เป็น กองทุนรวมหน่วยลงทุนประเภท Fund of Funds ที่มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรือกองทุน property (กองทุนปลายทาง) ทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนมีดัชนีชี้วัด คือ อัตราผลตอบแทนร้อยละ 9 ต่อปี

5 กองทุนเปิดกรุงไทยมีทรัพย์ (ชนิดเพื่อการออม) (KTMEE-SSF) เป็น กองทุนรวมหน่วยลงทุนประเภท Fund of Funds ที่มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรือกองทุน property (กองทุนปลายทาง) ทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนมีดัชนีชี้วัด คือ อัตราผลตอบแทนร้อยละ 7 ต่อปี

6 กองทุนเปิดกรุงไทยศรีสิริ (ชนิดเพื่อการออม) (KTSRI-SSF) เป็น กองทุนรวมหน่วยลงทุนประเภท Fund of Funds ที่มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรือกองทุน property (กองทุนปลายทาง) ทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนมีดัชนีชี้วัด คือ อัตราผลตอบแทนร้อยละ 5 ต่อปี

7 กองทุนเปิดกรุงไทยสุขใจ (ชนิดเพื่อการออม) (KTSUK-SSF) เป็น กองทุนรวมหน่วยลงทุนประเภท Fund of Funds ที่มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรือกองทุน property (กองทุนปลายทาง) ทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนมีดัชนีชี้วัด คือ อัตราผลตอบแทนร้อยละ 3 ต่อปี

“สภาวะตลาดการลงทุนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศมีแนวโน้มการฟื้นตัวดีที่ขึ้น เนื่องจากหลายประเทศเริ่มควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้มากขึ้นและทยอยคลาย Lock Down อย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงเกิดพฤติกรรมแบบใหม่ที่เรียกว่า New Normal ในสังคมโลก ซึ่ง บลจ. กรุงไทย มองว่า ภาครัฐได้มีความพยายามในการออกมาตรการต่างๆ ทั้งนโยบายการเงินและการคลังข้างต้นในการเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ตลาดการเงิน ทำให้สถานการณ์ได้รับการบรรเทาในปลายไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 ซึ่งทำให้เศรษฐกิจในประเทศต่างๆ น่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวได้ในครึ่งหลังของปี 2563 ในส่วนของประเทศไทยก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดโลก ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ทำการลดดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับร้อยละ 0.5 และได้มี พ.ร.ก.จัดตั้งกองทุน BSF วงเงิน 400,000 ล้านบาท พร้อมกันนั้น รัฐบาลจะทำการกู้เงินเพื่อบรรเทาสถานการณ์และฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 1.5 ล้านล้านบาท นับเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจและตลาดการลงทุนโดยรวม อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจต้องใช้เวลา รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่คาดว่าจะค่อยๆ ดีขึ้นไปตามลำดับ” นางชวินดา กล่าว

ทั้งนี้ การลงทุนในกองทุนรวมชนิดเพื่อการออม (SSF) ถือเป็นการสร้างวินัยการลงทุนและช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาว อีกทั้งยังสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในการนำมูลค่าซื้อหน่วยลงทุนในหน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม (SSF) ไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินและไม่เกิน 200,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขว่าเมื่อรวมกับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ประกันบำนาญ และกองทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท ตามเงื่อนไขและวิธีการที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดอีกด้วย โดย บลจ. กรุงไทย ยังเอาใจผู้ลงทุนด้วยโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับการลงทุนในกองทุน KTAM RMF และSSF (ปกติ) ทุกๆ 50,000 บาท สำหรับการชำระทุกช่องทาง (ยกเว้น RMF2, RMF3, RMF4 และ SSFX (พิเศษ)) จะได้รับเงินคืน 100 บาท เข้ากองทุน KTSTPLUS ตั้งแต่ 2 มกราคม - 30 ธันวาคม 2563 และสามารถชำระผ่านบัตรเครดิต KTC หรือใช้คะแนน KTC FOREVER ทุก 1,000 คะแนน แทนเงินลงทุน 100 บาท ได้อีกด้วย ทั้งนี้ เงื่อนไขโปรโมชั่น การรับเงินคืนและเงื่อนไขอื่นๆ เป็นไปตามที่ บลจ.กรุงไทย และบัตรเครดิต KTC กำหนด

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด เชลซี พบ แอสตัน วิลล่า พรีเมียร์ลีก วันนี้ 27 ธ.ค.68