posttoday

บลจ.กสิกรไทย เผยตราสารหนี้ต่างประเทศมีปัจจัยหนุน

28 ตุลาคม 2562

ชวนผู้ลงทุนล็อกผลตอบแทนผ่าน"เทอมฟันด์"ช่วยกระจายความเสี่ยงและช่วยให้พอร์ตการลงทุนมีประสิทธิภาพภายใต้สภาวะตลาดที่มีความผันผวน

ชวนผู้ลงทุนล็อกผลตอบแทนผ่าน"เทอมฟันด์"ช่วยกระจายความเสี่ยงและช่วยให้พอร์ตการลงทุนมีประสิทธิภาพภายใต้สภาวะตลาดที่มีความผันผวน

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ มีความชันเพิ่มขึ้น ในขณะที่ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ส่งผลให้ธนาคารกลางในภูมิภาคเอเชียพิจารณาดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายเช่นกัน เพื่อเตรียมรับมือกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจดังกล่าว

จากปัจจัยที่กล่าวข้างต้น เป็นผลดีกับอัตราผลตอบแทนของตลาดตราสารหนี้ เมื่ออัตราผลตอบแทนลดลงส่งผลให้ผู้ลงทุนมุ่งหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (Search for yield) โดยเน้นการลงทุนในประเทศที่ให้ผลตอบแทนสูงภายใต้ความเสี่ยงที่รับได้ เช่น ประเทศในภูมิภาคเอเชีย เป็นต้น นอกจากนี้ การประเมินมูลค่า (Valuation) ของตราสารหนี้เอเชียยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับทรงตัว อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนยังคงควรจับตานโยบายทางการเงินของรัฐบาลในเอเชีย และติดตามความผันผวนค่าเงินเอเชียในระยะสั้น

บลจ.กสิกรไทย เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน HQ (KFF6MHQ) ประมาณการผลตอบแทนไว้ที่ 1.50% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี HA (KFF1YHA) ประมาณการผลตอบแทนไว้ที่ 1.60% ต่อปี โดยเปิดเสนอขายในระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน 2562

เบื้องต้นคาดว่าทั้ง 2 กองทุน มีนโยบายเข้าไปลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank Corporation, สาขาฮ่องกง, เงินฝาก Agricultural Bank of China, เงินฝาก Bank of China, ประเทศจีน รวมถึงเงินฝาก Commercial Bank of Qatar และเงินฝาก Al Khalij Commercial Bank, ประเทศกาตาร์ นอกจากนี้ยังมีเงินฝาก Abu Dhabi Commercial Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตราสารหนี้ Malayan Banking Berhad, ประเทศมาเลเซีย โดยกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน

"กองทุนเทอมฟันด์ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทนในระยะเวลาลงทุนที่แน่นอน อีกทั้งยังช่วยกระจายความเสี่ยงและช่วยให้พอร์ตการลงทุนมีประสิทธิภาพภายใต้สภาวะตลาดที่มีความผันผวน "นายนาวินกล่าว