posttoday

บลจ.ยูโอบี โชว์ฟอร์มเหนือตลาด เอยูเอ็ม 8 เดือนโต 16.6%

08 ตุลาคม 2562

ชูกลยุทธ์กระจายพอร์ตลงทุนในภาวะตลาดผันผวน พร้อมนำนวัตกรรมบริการใหม่รับยุคดิจิทัล

ชูกลยุทธ์กระจายพอร์ตลงทุนในภาวะตลาดผันผวน พร้อมนำนวัตกรรมบริการใหม่รับยุคดิจิทัล

นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทฯ นับจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2562 มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) เติบโต 16.6% จาก 2.10 แสนล้านบาท เป็น 2.45 แสนล้านบาท (ณ 30 ส.ค. 2562) มากกว่าภาพรวมตลาดในช่วงเดียวกันที่เติบโตเฉลี่ย 4%

ส่วนมูลค่า AUM เฉพาะช่วง 4 เดือน (นับจากเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2562) เติบโต 9% ปัจจัยมาจากการเติบโตของลูกค้าสถาบัน ทั้งภาครัฐและเอกชน ในกลุ่มธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนส่วนบุคคล ที่มีAUM เพิ่มขึ้น 2 หมื่นล้านบาท (ณ 30 ส.ค. 2562)

ประกอบกับนับจากเดือนพฤษภาคม – สิงหาคมที่ผ่านมา ได้เสนอขายกองทุนรวมใหม่อีก 5 กองทุน เพื่อตอบโจทย์กับสภาวะตลาดการลงทุนปัจจุบัน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดสัมมนาอย่างสม่ำเสมอเพื่อนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทั้งภาพรวมสถาวะตลาด การลงทุนในปัจจุบันและแนวโน้ม ในการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุน (Distributor)

บลจ.ยูโอบี มีกองทุนหลายกองที่ทำผลการดำเนินงานย้อนหลังที่โดดเด่น สำหรับประเภทกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) โดยกองทุนเปิด ยูโอบี หุ้นระยะยาว (UOBLTF) กองทุนเปิดบรรษัทภิบาลหุ้นระยะยาว (CG-LTF) และกองทุนเปิดแวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว (VALUE-D LTF) ที่มีผลการดำเนินงานย้อนหลังโดดเด่น ติดท็อป 10 ของกองทุนรวมหุ้นระยะยาวในอุตสาหกรรม ในช่วง 5 ปี และ 10 ปีย้อนหลัง

โดยมีผลการดำเนินงาน 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 7.03% (ต่อปี) 6.66% (ต่อปี) และ 6.34% (ต่อปี) ตามลำดับ ในขณะที่เกณฑ์มาตรฐาน (SET TRI) อยู่ที่ 6.38% (ต่อปี) และผลการดำเนินงาน 10 ปีย้อนหลังของแต่ละกองทุนอยู่ 14.52% (ต่อปี) 15.88% (ต่อปี) และ 14.88% (ต่อปี) ตามลำดับ ส่วนเกณฑ์มาตรฐาน (SET TRI) ให้ผลการดำเนินงานที่ 15.22% (ต่อปี) (ที่มา : www.thaimutualfundnews.com, ณ มิ.ย. 2562)

สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี (ณ 30 ส.ค. 2562) กองทุน UOBLTF เป็นกองทุนที่มีผลการดำเนินงานเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มกองทุน LTF และอยู่ใน Top Quartile ทุกช่วง (ที่มา : Morningstar Thailand) รวมถึงได้รับการจัดอันดับ 4 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์ ไทยแลนด์ (ณ วันที่ 30 ส.ค. 2562) โดยมีผลการดำเนินงาน 6.29% (ต่อปี) ขณะที่เกณฑ์มาตรฐาน (SET TRI) อยู่ที่ 5.41% (ต่อปี) บลจ. ยูโอบี จึงมั่นใจแนะนำกองทุน LTF เพื่อผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนช่วงปลายปี เพื่อออมเงินระยะยาวและลดหย่อนภาษี และปัจจุบันกองทุน UOBLTF มีให้เลือกทั้งแบบไม่รับเงินปันผล (UOBLTF) และแบบรับเงินปันผล (UOBLTF-D) เพื่อตอบโจทย์นักลงทุนทุกกลุ่มอีกด้วย

นอกจากนี้ ได้มุ่งเน้นพัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการทางออนไลน์อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองพฤติกรรมลูกค้าในยุคดิจิทัล โดยเข้าร่วมโครงการ NDID (National Digital ID) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นระบบที่ใช้เพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาให้บริการช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาดำเนินการเปิดบัญชี และเพื่อตอบสนองพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป คาดว่าภายในเดือนธันวาคมนี้จะสามารถเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ ‘e-account opening application’ เพื่อให้บริการทางออนไลน์ ที่จะช่วยให้การเปิดบัญชีซื้อขายกองทุนเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้นและเพิ่มโอกาสขยายฐานลูกค้า

น.ส.รัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากภาพรวมเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัว เนื่องจากผลกระทบจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีน ที่อาจยืดเยื้อต่อเนื่องถึงปี 2563 ส่งผลกระทบต่อระบบซัพพลายเชนทั่วโลก ประกอบกับผลประกอบการในตลาดหุ้นที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดหุ้นมีการประเมินมูลค่า (Valuation) สูงขึ้นและมีความเสี่ยงที่จะปรับฐานได้ ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ (Fixed Income) แม้ว่าจะมีอัตราผลตอบแทนไม่สูง อย่างไรก็ตามจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาลง จึงมีโอกาสจะได้รับกำไรจากราคาสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นมาชดเชย”

ดังนั้น บลจ. ยูโอบี จึงมีมุมมองเชิงกลยุทธ์เน้นกระจายความเสี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท (Asset Allocation) ผ่านกองทุนรวม เพื่อลดการกระจุกตัวของพอร์ต และแนะนำลดน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่นการลงทุนในหุ้นเพียงอย่างเดียว เพื่อลดผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนที่มีความผันผวน หรืออาจจะมองหาลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพสูงที่มีโอกาสเติบโตได้ในทุกภาวะเศรษฐกิจและมีกระแสเงินสดดี

อีกทั้งยังแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์ตราสารหนี้กลุ่ม Investment Grade รวมถึงลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก อาทิ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า (รีท) ที่มีความผันผวนต่ำกว่าการลงทุนในหุ้น แต่สามารถให้โอกาสรับอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากและการลงทุนในพันธบัตร รวมถึงมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาวอีกด้วย

บลจ. ยูโอบี ได้เพิ่มทางเลือกการลงทุนให้กับนักลงทุน โดยได้คัดสรรกองทุนรวม 5 กองที่มีความโดดเด่น เพื่อตอบโจทย์การลงทุนภายใต้กลยุทธ์ Asset Allocation ที่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนที่มีความผันผวนในปัจจุบัน ได้แก่

1. กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล ไดนามิค บอนด์ ฟันด์ (UDB) ระดับความเสี่ยงกองทุน 6 เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทนุ รวมต่างประเทศ โดยเน้นกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและภาคเอกชนในประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา

2. กองทุนเปิด ยูไนเต็ด เฟล็กซิเบิ้ล อินคัม ฟันด์ (UFIN) ระดับความเสี่ยงกองทุน 6 เน้นลงทุนในหลักทรัพย์และทรัพย์สินทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษทัจัดการจะพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์และทรัพย์สินแต่ละประเภทในสัดส่วนตั้งแต่ 0-100% ของมูลค่า NAV ของกองทุน และกองทุนจะนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 79% ของมูลค่า NAV ของกองทุน 

3. กองทุนเปิด ยูโอบี หุ้นระยะยาว ชนิดไม่จ่ายเงินปันผล (UOBLTF) และกองทุนเปิด ยูโอบี หุ้นระยะยาว ชนิดจ่ายเงินปันผล (UOBLTF-D) ระดับความเสี่ยงกองทุน 6 

4. กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล ดูเรเบิ้ล ฟันด์ (UGD) ระดับความเสี่ยงกองทุน 6 ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ  โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มั่นคง (durable companies) ที่จดทะเบียนและซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกที่ให้กำไรทบต้นอย่างสม่ำเสมอแก่ผู้ลงทุน โดยมีระดับความผันผวนของผลตอบแทนที่ต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ยของบริษัททั่วไป

5. กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ฮาร์โมนี ฟันด์ ซีรีส์ (UJAZZ, UPOP, UROCK) ระดับความเสี่ยงกองทุน 5 เป็นกองทุนใหม่ที่เสนอขายไอพีโอปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและการลงทุน ประกอบด้วย 3 กองทุนทางเลือกคือ UJAZZ, UPOP, UROCK