posttoday

คนสามคนในที่ทำงาน

01 พฤษภาคม 2562

การทำงานหนีไม่พ้นคนสามคม คือ หัวหน้า ลูกน้อง และเพื่อนร่วมงาน ซึ่งมีมีปัญหาการทำงานร่วมกันเสมอ ซึ่งการแก้ปัญหาให้มองดูที่ตัวเองก่อนที่จะโทษคนอื่น

การทำงานหนีไม่พ้นคนสามคม คือ หัวหน้า ลูกน้อง และเพื่อนร่วมงาน ซึ่งย่อมมีปัญหาการทำงานร่วมกันเสมอ โดยการแก้ปัญหาให้มองดูที่ตัวเองก่อนที่จะโทษคนอื่น

*********************

คอลัมน์ตลาดนัดการเงิน โดย...กำพล สุทธิพิเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย

คนทำงานประจำทุกคนไม่ว่าจะเป็นบริษัทเอกชน หรือข้าราชการประจำ ทุกๆ ปี ก็อาจจะมีการปรับปลี่ยน โยกย้ายในตำแหน่งงานต่างๆ โดยเฉพาะตำแหน่งบริหาร มักจะมีการหมุนเวียนไปรับผิดชอบหน้าที่ใหม่ๆ กัน คนที่เป็นผู้บริหารก็จะต้องไปทำงานกับทีมงานใหม่ๆ ลูกน้องก็ต้องมีการทำงานกับหัวหน้าคนใหม่ หรือการที่ต้องไปรับผิดชอบงานใหม่ก็จะมีเพื่อนร่วมงานใหม่ๆ ในกลุ่มงานนั้น ตัวผมเองทำงานธนาคารมาก็นาน ถูกหมุนเวียนเปลี่ยนงานมาก็มาก เจอหัวหน้างานหลายคน เจอลูกน้องใหม่ๆ เพื่อนร่วมงานใหม่ๆ มากมาย แม้ว่าจะเคยทำงานกับคนมาเป็นร้อยเป็นพันคน แต่ก็สรุปได้ด้วยคุณลักษณะของบทบาทหลักๆ ได้แค่ว่า ในการทำงานนั้น เราทำงานกับคนแค่สามคน คือ หัวหน้า ลูกน้อง และเพื่อนร่วมงาน ไม่มีมากกว่านี้แน่นอน

เราจึงควรมาทำความเข้าใจในการทำงานกับคนทั้งสามคนนี้ให้ได้ว่าต้องทำงานอย่างไร เพราะคนทั้งสามคนนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในตำแหน่งงานไหน ไม่ว่าตำแหน่งจะสูงแค่ไหน หรือจะอยู่องค์กรใดๆ ก็ตาม คุณต้องทำงานกับคนสามคนนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นจึงควรมาเข้าใจว่าถ้าต้องทำงานกับคนทั้งสามนี้ ทำอย่างไรถึงจะทำได้ดี

ทำงานกับหัวหน้า – เคยรู้หรือไม่ว่าความพึงพอใจของหัวหน้า เกี่ยวกับงานของคุณในส่วนไหน อาจจะเป็นงานหลักๆ ที่สำคัญไม่กี่งานก็ได้ ถ้าคุณมัวแต่ไปทุ่มเทเวลาและเรี่ยวแรงไปกับงานที่หัวหน้าไม่ได้ให้ความสนใจ ก็จะเสียเวลาเปล่า ทั้งยังเพิ่มความเครียดให้หัวหน้าและตัวคุณเอง โดยไม่ได้สร้างความประทับใจใดๆ เลย

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่างานหลักๆ ที่หัวหน้าจะประทับใจและอยากให้ทำคืออะไร มีทางเดียวคือ ต้องเอ่ยปากถาม เมื่อเริ่มงานใหม่ ให้ถามหัวหน้าเลยว่าลูกน้องที่ต้องการในตำแหน่งนี้ควรเป็นอย่างไร คุณสมบัติใดที่จะทำให้ลูกน้องคนนั้นมีคุณค่าสูงสุดในสายตาเขา ถามว่าควรใส่ใจในภาระหน้าที่หรืองานใดอย่างเต็มที่บ้าง จากนั้นก็ถามว่างานที่สำคัญที่สุดต่อไปคืออะไร และงานต่อไปหลังจากนั้นคืออะไร

ทำเช่นเดียวกันเมื่อได้รับมอบหมายงานใหม่ คุณต้องทราบให้ชัดเจนว่าหัวหน้าต้องการและคาดหวังสิ่งใด เพื่อจะได้ใช้เวลาในการทำสิ่งนั้นแทนที่จะเสียเวลากับเรื่องอื่น คุณอาจคิดว่าคำถามข้างต้นเป็นเรื่องที่รู้ๆ กัน แต่ถ้าคุณถามหัวหน้าสามคนด้วยคำถามเดียวกัน คุณอาจประหลาดใจ เพราะคุณอาจได้คำตอบที่ไม่เหมือนกัน และเมื่อจบโครงการหนึ่งๆ คุณควรถามความคิดเห็นว่า คุณทำอะไรได้ดีบ้าง และต้องปรับปรุงอะไร หัวหน้าอยากให้เปลี่ยนแปลงตรงไหนบ้างในคราวหน้า

การเอ่ยปากถามหัวหน้าตรงๆ เรามักไม่ค่อยทำกัน ชอบนึกเอง ทึกทักเอง แล้วมันก็ไม่ชัดเจน และท้ายสุดก็ไม่ใช่ นิสัยคนเป็นลูกน้องที่พบบ่อย คือ ชอบสร้างกำแพงขึ้นมาเองระหว่างหัวหน้าและลูกน้อง และก็คิดเองว่าหัวหน้าต้องเป็นอย่างนั้น หัวหน้าต้องเป็นอย่างนี้แน่ๆ แล้วมิหนำซ้ำก็สรุปว่าหัวหน้าเป็นคนสร้างกำแพงนั้นขึ้นมาเองอีก

คนสามคนในที่ทำงาน

ทำงานกับลูกน้อง – บอกให้ทีมรู้ว่างานที่คุณต้องการให้พวกเขาทุ่มเทเวลาคืออะไร เมื่อมอบหมายโครงการใดให้ใคร ต้องแน่ใจว่าคนนั้นเข้าใจดีว่าคุณต้องการอะไร เพื่อที่เขาจะได้ไม่เสียเวลาทั้งของตนเองและของคุณไปโดยเปล่าประโยชน์

เมื่อมอบหมายหน้าที่งานให้ใคร ควรสั่งงานให้ชัดเจน และให้อิสระแก่พนักงานในการทำงานให้สำเร็จ โดยไม่ต้องคอยจ้ำจี้จ้ำไชอยู่ตลอดเวลา การทำแบบนี้จะป็นการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและลดความเครียดสำหรับพนักงานและตัวคุณเอง แล้วต้องกล่าวชมพนักงานผู้ทำงานได้ดีทุกครั้งหลังจากงานสำเร็จ จากการวิจัยพบว่า พนักงานจะมีผลการทำงานที่ดีขึ้น เมื่อได้รับคำชมทันทีหลังงานเสร็จลุล่วง

รักษาบทบาทหน้าที่ในฐานะหัวหน้า ขณะเดียวกันก็คอยดูแลและปฏิบัติต่อลูกน้องอย่างเท่าเทียมกันในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง วิธีหนึ่งที่ได้ผลดีที่สุดในการส่งเสริมให้พนักงานสามารถทำงานอย่างเต็มความสามารถก็คือ การตระหนักและรับรู้ถึงคุณค่าและศักยภาพด้านในของเขาในฐานะปัจเจกบุคคล ยอมรับว่าพวกเขาเป็นคนเข้มแข็ง มีคุณธรรม มีความสุข มีความคิดสร้างสรรค์ และมีประสิทธิภาพในการทำงาน แล้วพนักงานก็จะทำได้ตามภาพลักษณ์นั้นเอง

ทำงานกับเพื่อนร่วมงาน – คนเราทุกคนควรสร้างบรรยากาศการทำงานให้น่ารื่นรมย์ และใช้เวลาทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างคุ้มค่าที่สุด ควรฝึกนิสัยการรู้จักสังเกตเพื่อนร่วมงาน ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะทำงานเป็นทีมเดียวกัน หรือกำลังแข่งขันกันอยู่ ก็ควรพร้อมที่จะช่วยเหลือคนอื่นให้ทำงานสำเร็จได้ง่ายขึ้นเสมอ การทำเช่นนี้เท่ากับคุณกำลังสร้างพลังในเชิงบวกระหว่างคุณกับคนอื่นๆ ซึ่งธรรมชาติเขาย่อมต้องการจะช่วยคุณเป็นการตอบแทน การเกื้อกูลกันในลักษณะนี้ ไม่เพียงแต่จะเกิดผลดีในทางปฏิบัติแค่นั้น แต่ยังสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยและได้ผลดี

เปิดใจกว้างเรียนรู้จากคนอื่นๆ อยู่เสมอ ดูว่าคนอื่นปรับปรุงการทำงานให้ดีได้อย่างไร การแลกเปลี่ยนข้อมูลและเรียนรู้กันและกันจะสร้างความรู้สึกสนิทสนมกัน ทำให้บรรยากาศการทำงานผ่อนคลายและน่าพึงพอใจขึ้น และควรยกย่องชมเชยเพื่อนร่วมงานที่ทำงานได้ดี แม้ว่าจะเป็นคู่แข่งของคุณ ถ้าคุณยกย่องด้วยความจริงใจ คุณกำลังสร้างบรรยากาศในการเกื้อกูลกัน ซึ่งจะทำให้ทุกคนทำงานได้ง่ายขึ้น และไม่แน่หรอกนะคนๆ นั้นอาจจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องของคุณในอนาคตก็ได้

ถ้าใครรู้สึกว่าทำไมลูกน้องไม่เข้าใจ ทำไมหัวหน้าไม่เข้าใจ และทำไมเพื่อนร่วมงานไม่เข้าใจ ในเวลาพร้อมๆ กันด้วยนะ ผมแนะนำว่าไม่ต้องคิดอะไรให้มาก ให้มองดูที่ตัวเองอย่างเดียวพอ เพราะปัญหาอยู่ที่ตัวเราเองแน่ๆ ถ้าไม่มีทางเลือกอื่นที่ดี ณ ตอนนี้ ยังคงต้องเป็นมนุษย์เงินเดือนต่อไป สิ่งที่ต้องทำคือ ทำงานกับคนสามคนนี้ให้ได้