เมธ์วดี ประเสริฐสินธนา คุณแม่ลูกสอง บริหารเงินครอบครัวอย่างไร
ดูแลเงิน บริหารความมั่งคั่งให้คนอื่นมามากต่อมาก จะเกษียณจากงานประจำก็ตัดใจไม่ลงเพราะรักเหลือเกิน
ดูแลเงิน บริหารความมั่งคั่งให้คนอื่นมามากต่อมาก จะเกษียณจากงานประจำก็ตัดใจไม่ลงเพราะรักเหลือเกิน
******************************
โดย....พูลศรี เจริญ
เมธ์วดี ประเสริฐสินธนา โลดแล่นอยู่ในโลกแห่งการออม การลงทุน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)บางกอกแคปปิตอล บริษัทลูกของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง
ในบทบาทหน้าที่การงานเธอเป็นมือบริหารเงินลงทุน บริหารความมั่งคั่งให้ลูกค้า น่าสนใจว่าแล้วโลกส่วนตัวของสาวสวยคนนี้ มีการวางแผนเรื่องการออม การลงทุน เพื่อรองรับวัยเกษียณอย่างไร ปัจจุบันสมรสแล้วมีลูก 2 คน ลูกสาวหนึ่ง ลูกชายหนึ่ง ใครอยากรู้อายุก็บวก ลบ คูณ หาร กันเอาเอง เธอเกิดปี 2514
“อยากจะเกษียณตอนที่อายุยังไม่มากเกินไป เพราะอยากมีโอกาสไปทำอะไรหลายๆ อย่างที่ชอบ อยากจะเดินทางไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ อยากจะมีเวลาออกกำลังกายเรียนทำอาหาร ปลูกผักสวนครัว ฯลฯ “
เมธ์วดี เล่าว่า จริง ๆ แล้ว เธอเคยมีความคิดว่าจะเกษียณจากการทำงานเมื่อหลายปีก่อน แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ และคาดว่าคงไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆนี้ เพราะมีภาระหน้าที่ที่จะต้องนำพาบริษัท คือ บลจ.บางกอกแคปปิตอล ให้ประสบความสำเร็จก่อน อีกเหตุผลที่สำคัญ คือ ยังสนุกกับงาน และมีแผนงานมากมายที่ต้องทำ ที่สำคัญ คือ เธอบอกว่า หว่านเมล็ดไปเยอะแล้ว ดังนั้นจึงอยากจะรอดูดอกผลก่อน
เข้าเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของครอบครัว"ประเสริฐสินธนา" ว่ามีการวางแผนการเงิน การออม ลงทุน ทั้งเพื่อลูกและเพื่อตัวเธอเอง สำหรับรองรับชีวิตหลังเกษียณอย่างไร
เมธ์วดี บอกว่าเงินออมของครอบครัวจะแบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้
ส่วนแรก เป็นทุนการศึกษาของลูก ๆ
ส่วนที่สอง เงินที่ออมไว้สำหรับส่งต่อให้ลูกเมื่อพวกเขาเติบโตแล้ว
ส่วนที่สาม เป็นเงินที่ออมไว้สำหรับใช้เองหลังเกษียณจากการทำงาน
“สินทรัพย์ที่ลงทุนและเงินออมมีหลายประเภท ตั้งแต่สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงแต่มีความเสี่ยงที่แตกต่างกันไป เช่น เงินฝากธนาคาร เงินลงทุนในกองทุนรวม เงินลงทุนในตราสารทุน หรือหุ้น และตราสารหนี้ เงินลงทุนในต่างประเทศ ส่วนสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำ ก็จะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ภาพวาด อัญมณี นอกจากเงินออมและเงินลงทุนแล้วก็ยังซื้อประกันชีวิตไว้ด้วย”
สำหรับเงินออมในส่วนที่เป็นทุนการศึกษาของลูก ซึ่งเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อ-แม่ ครอบครัว “ประเสริฐสินธนา”จะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีเสถียรภาพและมีผลตอบแทนสม่ำเสมอ เช่น เงินปันผล หรือดอกเบี้ย และมีเงินลงทุนในต่างประเทศ ในสกุลเงินตราต่างประเทศ เพื่อที่จะได้ใช้เป็นทุนการศึกษาของลูกในอนาคต
”ในส่วนของเงินที่จะส่งต่อให้ลูกหลานนั้น เนื่องจากเป็นเงินลงทุนระยะยาวจึงสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นและมีสภาพคล่องต่ำได้ เช่น ลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทหุ้นซื้ออสังหาริมทรัพย์”
เงินส่วนสุดท้าย ที่เตรียมไว้ใช้หลังเกษียณ จะประกอบด้วยเงินที่ออมไว้กับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เมธ์วดี เล่าว่า ได้เริ่มสะสมมาตั้งแต่วัยเริ่มทำงาน และลงทุนในกองทุนรวมที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
นอกจากนี้ยังมีเงินลงทุนในหลักทรัพย์ที่ได้มาช่วงเป็นพนักงานของบริษัทที่ทำงานอยู่ สำหรับเงินออมส่วนที่เหลือจะจัดในรูปของการทำ Asset Allocation ซึ่งจะปรับความเสี่ยงลงตามอายุที่มากขึ้น จนถึงวัยเกษียณการทำงาน
ทั้งหมด คือ การวางแผนด้านสุขภาพทางการเงินของผู้หญิงชื่อ"เมธ์วดี ประเสริฐสินธนา"
ด้านสุขภาพกายและใจ แม้หน้าที่การงานจะดูเคร่งเครียดด้วยเพราะต้องบริหารเงินให้คนอื่นบนความคาดหวังเรื่องผลตอบแทนที่แน่นอนว่าทุกคนต้องการให้ตัวเลขเป็นบวก แต่คุณแม่ลูกสองคนนี้สามารถบริหารเวลาและอารมณ์ได้ดี ทั้งการออกกำลังกาย และทำในสิ่งที่รักเป็นชีวิตจิตใจ นั่นคือ การทำอาหาร