posttoday

หนี้แก้ได้ ถ้าใจสู้

07 พฤศจิกายน 2561

เดือนก่อนผมกับทีมงานเดินทางไปให้คำปรึกษาแก้หนี้กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เจอเคสหนึ่งอาการหนักมาก

เดือนก่อนผมกับทีมงานเดินทางไปให้คำปรึกษาแก้หนี้กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เจอเคสหนึ่งอาการหนักมาก เงินเดือนแต่ละเดือนยังไม่ทันได้รับ หมดไปกับการจ่ายหนี้ เงินซื้อข้าวไม่มี ต้องรอลุ้นอาหารที่ผู้ป่วยเหลือ และยังต้องคอยหวังรายได้เล็กๆ น้อยๆ จากค่าจ้างเช็ดตัวคนไข้ เพื่อข้าวเย็น

ฟังเคสครั้งแรกผมกับทีมงานก็ไปไม่เป็น เพราะดูอาการเธอหนักมาก แต่ก็ยังเชื่อในหลักการของเราว่า ปัญหานี้มีคนเดียวที่จะแก้ได้ นั่นคือ เจ้าของปัญหาเอง

สิ่งที่เราทำ คือ สอนเรื่องการหารายได้ โดยพยายามดึงจากทักษะ ความรู้ ประสบการณ์ เครือข่าย และไอเดียของเธอ บวกกับสอนเรื่องการทำตลาดออนไลน์ เพื่อหาทางช่วยเธอขายต้นทุนทางปัญญาและความสามารถทั้งมวลที่เธอมี

กลับจากโรงพยาบาลวันนั้น สารภาพตามจริงว่า ไม่มั่นใจว่า สิ่งที่เราทำจะช่วยเธอได้มั้ย หรือช่วยได้แค่ไหน รู้สึกติดอยู่ในใจ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่เอาใจช่วย และหวังว่าสิ่งที่เราให้คำปรึกษาไป อาจเป็นประโยชน์กับเธอบ้าง

เมื่อวานนี้ ครบ 1 เดือน ที่เราต้องกลับไปติดตามผล เราเจอเธออีกครั้ง!!

ครั้งนี้เธอมาพร้อมขนมเต้าฮวยนมสด ที่เธอหยิบติดมาฝากให้พวกเราได้ลองทานกัน สีหน้าเธอดูยิ้มแย้มเวลาแนะนำ ทุกคนที่ได้ชิมต่างเห็นตรงกันว่า รสชาติอร่อย หน้าตาของขนมก็ดูดีใช้ได้ เสียแค่ยังไม่มีแบรนด์ ไม่ติดยี่ห้อ เลยถามถึงที่มาที่ไป

เธอเล่าให้ทีมงานผมฟังว่า หลังจากจบการให้คำปรึกษาครั้งก่อน เธอก็พยายามหาหนทางสร้างรายได้ คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก เลยไปค้นใน Youtube เจอวิธีทำเต้าฮวยนมสด แล้วเริ่มเรียน เริ่มฝึกทำตาม Youtube

ใช่ครับ! เธอเริ่มเรียนรู้ทุกอย่างใหม่หมดจากศูนย์​ ไม่ได้พึ่งต้นทุนความรู้ ต้นทุนชีวิตและประสบการณ์เดิมๆ ที่มีเลยแม้แต่น้อย

หลังเรียนรู้วิธีทำ เธอเริ่มต้นโดยการขอยืมเงินเพื่อน 500 บาท (เธอไม่มีทุนจริงๆ ตามที่เล่าไป) มาใช้เป็นทุนเริ่มต้นทำของขาย แค่ขายไม่กี่วัน เธอก็สามารถนำกำไรมาคืนเงินเพื่อนได้ และมีกำไรต่อวันอีกเล็กน้อย พอให้ชีวิตขับเคลื่อนไปได้

แม้วันนี้ยังมีหนี้อีกเยอะ ชีวิตยังติดลบ แต่ดูเธอมีความหวังขึ้นมาก ดูมีพลัง มีกำลังใจ เหมือนไฟในชีวิตกลับมาลุกโชนอีกครั้ง

จบการเข้าให้คำปรึกษาเมื่อวานนี้ เรารู้สึกมีความสุขกันมาก แม้จะเป็นแค่เคสเดียว คนเดียว ชีวิตเดียว จากหลายๆ เคสที่เข้าโครงการกับเรา (ยังมีเคสอื่นๆ อีก ไว้จะมาเล่าให้ฟังวันหลังนะครับ) แต่ก็เพิ่มเติมพลังให้กับทีมงานให้มีแรงทำงานกันต่อ

เราดีใจที่ปณิธานช่วยเหลือคนเป็นหนี้ โดยการให้ความรู้ทางการเงิน ยื่นมือ ไม่ยื่นเงินของเรา ได้ผลลัพธ์ที่น่าชื่นใจกลับมา หลายครั้งที่ปัญหาเรื่องเงิน ถูกใช้วิธีการเดิมๆ คือ หยิบยื่นเงินปลอดดอกเบี้ย หรือดอกเบี้ยต่ำให้ โดยไม่ได้ส่งมอบ “ความรู้ทางการเงิน” ควบคู่กันไปด้วย เพียงแค่ส่งเงินให้ ไม่นานก็หมดและหดหายไป ลูกหนี้ก็ทำได้แค่รอคอยเงินก้อนใหม่ ไม่ได้ทำให้ปัญหาหมดไป หรือทำให้คนเป็นหนี้หลุดพ้นสภาวะปัญหาได้จริง เหมือนการแก้ด้วยปัญญาและความรู้

แต่การแก้หนี้ด้วยปัญญา ลึกๆ มันคือการสร้างสำนึกให้ผู้ประสบปัญหาหนี้เข้าใจว่า ไม่มีใครช่วยเขาได้จริงๆ นอกจากตัวเขาเอง และสำนึกเล็กๆ จุดกำเนิดแห่งความรับผิดชอบต่อการเงินตัวเองแบบเล็กๆ นี่แหละ คือ จุดเริ่มต้นของปัญญา และวินัย
ที่จะพาผู้ที่กำลังตกอยู่ในปัญหาหนี้หลุดพ้นจากปัญหาได้

แม้จะเป็นแค่ 1 คน 1 เรื่องราว แต่มันก็ยังยืนยันและตอกย้ำเสมอว่า“หนี้มากแค่ไหน ก็ไม่มีทางใหญ่ไปกว่าใจของคนเรา” ที่มุ่งมั่นจะค้นหาทางออกให้กับตัวเอง ด้วยน้ำมือของตัวเราเอง

ขอเพียงแค่คิดจะสู้ ลองลงมือทำ ไม่ท้อ ไม่หมดแรงไปเสียก่อน วันหนึ่งก็จะต้องเจอทางออก ที่แม้จะเป็นแค่ประตูที่เปิดแง้มไว้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราเดินหน้าต่อไปได้

“หนี้แก้ได้ ถ้าใจสู้” ... ขอบคุณพลังคนธรรมดา ที่ช่วยผลักดันผมและทีมงานให้เดินหน้าต่อไปครับ