ราคาของความไม่รู้

โดย...จักรพงษ์ เมษพันธุ์ THE MONEY COACH

ช่วงที่เริ่มต้นลงทุนใหม่ๆ

ผมเคยถูกหลอกกินเงินมัดจำ 2 หมื่นบาท ตอนลงทุนอสังหาริมทรัพย์ครั้งแรกๆ

โง่ถึงขนาดถูกผู้ขายหลอกว่า เป็นเจ้าของบ้านด้วยโฉนดฉบับสำเนา ทำสัญญาจะซื้อจะขายกับใครก็ไม่รู้ พอถึงวันนัดโอน มันก็ไม่โผล่มา งาบเงิน 2 หมื่นของผมไปสบายๆ

ทั้งที่หากใส่ใจหาความรู้สักหน่อย หนังสือลงทุนอสังหาริมทรัพย์ดีๆ ราคาไม่กี่ร้อยบาท บอกวิธีป้องกันตัวเองจากการถูกหลอกในเรื่องดังกล่าวไว้โดยละเอียด

ผมเคยขาดทุนหุ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ภายในเวลาไม่ถึง 3 เดือน

ด้วยวิธีลงทุนแบบมักง่าย ใช้แค่ปาก (ถาม) กับหู (ฟัง) ซื้อๆ ขายๆ ได้ร่วมสนุกกับเพื่อนๆ ในตลาด แต่ไม่ได้ตังค์ แถมยังต้องขาดทุนเงินหลายหมื่นบาทภายในระยะเวลาสั้นๆ

ทั้งๆ ที่หนังสือดีๆ คอร์สเรียนราคาไม่แพง เริ่มต้นกันตั้งแต่พื้นฐานไปยันถึงแอดวานซ์มีอยู่เกลื่อนกลาดเต็มไปหมด

ผมเคยขาดทุนกับธุรกิจสิ่งพิมพ์หลายแสนบาท ภายในเวลาไม่ถึงปี

เพียงเพราะแค่อวดฉลาด กระโดดเข้าไปทำธุรกิจ ทั้งๆ ที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้จัก มีแต่ความเชื่อมั่นว่าตัวเองเก่งว่าตัวเองทำได้ ไม่รู้ ไม่ถาม ไม่สนใจ

ทั้งๆ ที่คำแนะนำดีๆ จากคนในวงการลอยผ่านหูไปมา เต็มไปหมด แต่ใครมาเตือนก็ไม่เคยสนใจ

ทุกวันนี้เวลาที่มีคนมาขอคำปรึกษาเรื่องการลงทุน ผมมักจะแนะนำให้พวกเขา มองหาการลงทุนในความรู้เป็นอันดับแรก เพราะไม่อยากให้ใครต้องเจ็บตัวหนักๆ เหมือนผมในอดีต

การลงทุนในความรู้ที่ว่านี้ อาจไม่ต้องใช้เงินมากมาย แต่สำคัญที่ต้องอุทิศเวลา หาความรู้ในสิ่งที่จะลงมือทำอย่างจริงๆ จังๆ จะเป็นความรู้จากหนังสือ คอร์สสัมมนา หรือคุยกับผู้สำเร็จ ผู้เชี่ยวชาญ อะไรก็ได้ (โดยส่วนตัวแล้วผมชอบคุยกับคนสำเร็จมากที่สุด เพราะทำให้เราเรียนรู้ได้เร็วที่สุด)

หัวใจของความสำเร็จในทุกเรื่องของคนเรา ก็คือ การรู้จักและเข้าใจในสิ่งที่ทำเป็นอย่างดี

โลกนี้ไม่มีหรอก High Risk, High Return มีแต่ High Understanding, High Return เท่านั้นเอง

ผมยืนยันได้ด้วยประสบการณ์ส่วนตัวเลยว่า “ราคา” ของความรู้นั้นถูกมาก เมื่อเทียบกับมูลค่าความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากความไม่รู้ หรือรู้ไม่จริง

เสียเงินว่าหนักแล้ว เสียเวลาและโอกาสยิ่งพินาศไปกันใหญ่ เพราะสองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่มีค่ามากกว่าเงินเสียอีก

“คนเราไม่มีทางประสบความสำเร็จเกินไปกว่าขอบเขตความรู้ของตัวเอง” นี่เป็นหลักคิดที่ผมได้เรียนรู้ตลอดการเดินทางสู่อิสรภาพทางการเงิน ในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมา

ถ้าคุณคิดว่า การจ่ายเงินให้กับความรู้มันแพง ก็ลองจ่ายเงินให้กับ “ความไม่รู้” ดูสักครั้งสิครับ

แล้วคุณจะเข้าใจว่า โลกนี้…ไม่มีอะไรดีและถูก เท่ากับ “ความรู้” อีกแล้ว