ก้าวสู่วัยเกษียณ อย่างมั่นคง

เราจะทำอย่างไรถึงจะมีความสุขยามเกษียณ มีเงินใช้จ่ายอย่างไม่ขัดสน?...นี่คงเป็นคำถามที่หลายคนยังหาคำตอบไม่ได้ แต่ก็ยังดีที่ยังมีคำถามแบบนี้ ดีกว่าไม่ได้คิดอะไรไว้เลย นั่นแสดงว่าคุณเกิดความกังวลขึ้นแล้ว อย่างน้อยก็ต้องพยายามหาคำตอบให้ได้

ก่อนอื่นคุณต้องตรวจสอบก่อนว่า ถึงวันนี้ ในวัยนี้ คุณมีเงินออมเพียงพอเหมาะสมกับอายุหรือไม่ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องมีเงินออมเท่าไรถึงจะเหมาะสม เรื่องนี้ไม่ยาก ให้ใช้สูตรที่เขาใช้กันทั่วไปนั่นคือ เงินออมที่เหมาะสม ต้องเท่ากับ 10% ของรายได้ทั้งปี คูณด้วยอายุปัจจุบันของเรา

เช่น อายุ 30 ปี มีเงินเดือนๆ ละ 25,000 บาท เงินออมที่ควรมีในตอนนี้คือ 30X25,000X12/10 = 900,000 บาท

เงินออมในที่นี้คิดรวมถึงทรัพย์สินอย่างอื่นด้วย เช่น เครื่องประดับ ของมีค่าต่างๆ ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง ฯลฯ หลายคนคงตกใจว่า ทำไมเรามีเงินออมน้อยอย่างนี้ รวมทรัพย์สินหมดแล้วก็ได้แค่นิดเดียว

เท่าที่วิเคราะห์ดู สาเหตุน่าจะมาจากที่รายได้มาสูงขึ้นในช่วงหลังขณะที่อายุมากแล้ว โดยที่การออมของเรามิได้เพิ่มขึ้น ที่จริงแล้วยิ่งอายุมากขึ้นเปอร์เซ็นต์การออมต้องสูงขึ้นตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องตกใจ ขอให้ใช้สูตรนี้เพื่อเป็นแนวทางเพื่อเพิ่มปริมาณการออมของเราให้มากขึ้น ทีนี้ก็ลองใช้สูตรนี้คำนวณเงินออมของเรา ดูว่าควรจะต้องมีสักเท่าไหร่ แล้วที่มีอยู่มากไปหรือน้อยไป

กรณีที่มากไปคงไม่มีปัญหา แต่ถ้าน้อยไปก็ต้องดูว่าจะทำอย่างไร ถึงจะช่วยให้เงินออมของเราเพิ่ม พูนขึ้นมาได้ จะออมอย่างไรให้มีเงินใช้อย่างสบาย ไปดูกันว่ามีเครื่องมืออะไรบ้างในการออม ที่ช่วยให้เราก้าวสู่วัยเกษียณอย่างมั่นคง

การฝากเงินผ่านธนาคาร

ถือเป็นเครื่องมือหนึ่งในการออมที่ได้รับความนิยมมาก เพราะฝากง่าย ถอนสบาย แต่ด้วยความสะดวกเกินไป ทำให้หลายคนไม่สามารถออมได้สำเร็จ เนื่องจากวินัยการออมหย่อนยาน ประกอบกับปัจจุบันนี้อัตราดอกเบี้ยก็ไม่เอื้ออำนวย ทำให้ได้ผลตอบแทนน้อยและแถมยังเก็บเงินไม่ค่อยได้ ส่วนใหญ่จึงเป็นการออมไว้เพื่อใช้จ่ายยามฉุกเฉินซะมากกว่า ถ้าจะใช้เครื่องมือนี้ผู้ออมต้องมีวินัยในการออมสูง และควรแยกบัญชีที่จะออมกับบัญชีใช้จ่ายปกติเป็นคนละบัญชี และควรเป็นบัญชีเงินฝากประจำ

การทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือแบบตลอดชีพ

ถือเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยในการออมเพื่อเป็นกองทุนยามเกษียณได้เป็นอย่างดี ตลอดจนสามารถกำหนดจำนวนเงินที่ต้องการได้อย่างชัดเจน ได้ผลตอบแทนมากกว่าการฝากเงิน และยังได้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีด้วย แต่ทั้งนี้ผู้ที่จะออมด้วยวิธีนี้จะต้องเข้าใจและเห็นถึงความสำคัญของการทำประกันชีวิต จึงจะช่วยให้การออมเป็นไปอย่างต่อเนื่องและประสบผลสำเร็จ

การออมในรูปแบบของการลงทุนในกองทุน

กองทุนเหล่านี้ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุน RMF ถือเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่ใช้ได้ดีและยังได้รับสิทธิด้านการลดหย่อนภาษี ตลอดจนสามารถเพิ่มพูนรายได้ให้มากขึ้นด้วย แต่ผู้ออมต้องศึกษาหาความรู้และเข้าใจในกองทุนที่จะลงทุน และต้องทราบถึงข้อจำกัดต่างๆ รวมถึงต้องพิจารณาด้วยว่า เราสามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยอย่างไรบ้าง จังหวะไหนควรลงทุนแบบใด

ทั้งหมดนี้ก็เป็น 3 เครื่องมือหลักๆ ที่จะช่วยในการออมของคุณเพื่อเข้าสู่วัยเกษียณอย่างมั่นคง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับวินัยการออมของแต่ละบุคคลด้วย

ต้องออมเท่าไร ถึงจะมีเงินใช้สบายๆ ในวัยเกษียณ

เริ่มทำงาน-39 ปี - 10% ของรายได้ต่อเดือน

40-49 ปี - 20% ของรายได้ต่อเดือน

50-54 ปี - 50% ของรายได้ต่อเดือน

55-59 ปี - 80% ของรายได้ต่อเดือน

ถ้าเรารู้จักหา รู้จักใช้ รู้จักเก็บ แค่นี้ก็น่าจะช่วยให้ชีวิตในปัจจุบันและอนาคตของเรามีความสุขได้ แต่อย่าตึงเกินไปหรือหย่อนเกินไป เงินที่หามาได้ก็ต้องรู้จักใช้ มิใช่เก็บเพื่ออนาคตอย่างเดียว จนทำให้ชีวิตปัจจุบันลำบาก หรือหามาได้เท่าไรก็ตั้งหน้าตั้งตาใช้จนหมด โดยไม่สนใจอนาคตข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไร

วิธีที่ดีที่สุดคือ ให้เดินสายกลาง หามาได้ใช้จ่ายแต่พอตัว เก็บออมให้พอเหมาะพอดี เพียงเท่านี้ก็น่าจะช่วยให้คุณก้าวสู่วัยเกษียณได้อย่างมั่นคงแล้วละ