posttoday

เกมชีวิต พิชิตจน

29 มีนาคม 2560

โดย...จักรพงษ์ เมษพันธุ์ THE MONEY COACH

โดย...จักรพงษ์ เมษพันธุ์ THE MONEY COACH

หลายปีก่อนลูกศิษย์ผมคนหนึ่ง ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัทร้านสะดวกซื้อชื่อดัง รายได้เดือนละ 9,000 บาท มีหนี้ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดอยู่ก้อนหนึ่ง เป็นหนี้จำนองที่พ่อแม่เอาที่ดินไปจำนอง และกู้เขามาเพื่อกินอยู่ใช้จ่าย รวมกับที่สร้างเพิ่มจากการแต่งงานของตัวเอง รวมทั้งสิ้น 4 แสนบาท

คุยกันครั้งแรก เขาเผยงบการเงินทั้งหมดให้ผมดู สถานการณ์ที่เห็นคือ ถ้าปล่อยชีวิตให้เป็นแบบเดิมต่อไป เขาน่าจะพาตัวเองไปถึงหนี้หลักล้านในบั้นปลายได้ไม่ยาก แต่ด้วยความคิดดีและตั้งใจดี เขาจึงพยายามหาทางที่จะเปลี่ยนแปลงมัน และบอกกับผมว่า เขาเบื่อชีวิตหนี้แบบนี้เหลือเกิน

หลังจบการคุยกันครั้งแรก ผมให้คำแนะนำเรื่องการจัดการทางการเงินกับเขา เริ่มจากรวมหนี้เป็นก้อนเดียว เพื่อลดภาระผ่อน ให้ชีวิตพอมีเงินเหลือกินอยู่ใช้จ่าย และแนะนำให้เขามองหาวิธีการสร้างรายได้เพิ่ม เพราะลำพังการลดค่าใช้จ่าย มองด้วยตาก็รู้ว่า ไม่น่าจะพาให้เขารอดจากปัญหาได้

ตอนนั่งดูงบการเงิน ผมเห็นเขามีค่าใช้จ่ายสำหรับซื้อบุหรี่ทุกเดือน ก่อนจากกันวันนั้น ผมเลยบอกกับเขาว่า ถ้าจนแล้วยังมีเงินซื้อบุหรี่ ก็แสดงว่ายังจนไม่จริง ยังทนความจนได้ ที่พูดที่บอกไปด้วยเห็นว่าการหยุดสูบบุหรี่จะช่วยทั้งเรื่องการเงินและสุขภาพของเขาได้ (สุดท้ายเขาเล่าให้ฟังว่า เขาโยนบุหรี่ซองสุดท้ายในกระเป๋าลงถังขยะหน้าห้างสรรพสินค้าที่เรานัดคุยกัน และหยุดสูบมันตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา)

การโค้ชชิ่งวันนั้นไม่ได้มีอะไรวิจิตรพิสดารเลย คำแนะนำก็ธรรมดา แค่ควบคุมค่าใช้จ่าย ไม่ก่อหนี้เพิ่ม รีไฟแนนซ์หนี้ และหารายได้เพิ่ม แต่พอคนมันใช่ ใจมันสู้ เขาก็พร้อมที่จะเปลี่ยนเกมการเงินของตัวเอง

เขาเริ่มเดินเข้าออกธนาคารเป็นว่าเล่น สอบถามและหาสินเชื่อส่วนบุคคลดอกเบี้ยถูก เพื่อนำมารีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดที่มีหนี้รวมกันแสนกว่าบาท

เริ่มศึกษาเรื่องการค้าขายออนไลน์ผ่านตลาดต่างประเทศที่มีโอกาสมากกว่า ผิดถูกล้มลุกคลุกคลาน ก็สู้ก็ลุยทำไปเรื่อย จากคนที่ถ้าแต่ก่อนคิดหารายได้เพิ่ม ก็จะหาของขายเพื่อรายได้เสริมก๊อกแก๊กไปเรื่อยเปื่อย เริ่มมอง เริ่มคิดถึงเรื่องการสร้างธุรกิจจริงจัง

(อย่าทำอาชีพเสริม แต่ให้ทำอาชีพที่จะพลิกชีวิตเราได้ ..​.​ นั่นคือสิ่งที่ผมบอกกับเขา)

เขาเริ่มลงทุนในพอร์ตหุ้น ชนิดที่หากใครเห็นเขาพูดเรื่องหุ้น ก็อาจปรามาสด้วยสายตาว่า คนแบบเขาจะไปเข้าใจหุ้นได้อย่างไร แต่ก็นั่นแหละ สิ่งที่คนอื่นคิด กับสิ่งที่เราเป็น ใช่ว่าจะต้องเหมือนกัน

และด้วยแผนการที่ชัดเจน อดทนใช้ชีวิตแบบคนผิดปกติ นอนแค่วันละไม่กี่ชั่วโมง ประหยัด เก็บหอมรอมริบ ทำหลายงานพร้อมกัน อดทนถูกข่มเหงรังแกและทำร้ายร่างกายจากเพื่อนร่วมงานที่ไม่ชอบขี้หน้า แต่เขาก็ยอม เพื่อเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน

สุดท้ายเขาปลดหนี้ 4 แสนบาทของครอบครัว และลาออกจากงานมาทำธุรกิจของตัวเองเต็มตัว

ปัจจุบันเขามีเงินเก็บหลักล้าน มีพอร์ตหุ้นและกองทุนรวมที่สะสมและเติบโต มีร้านเสื้อผ้าที่เป็นของตัวเอง และในอีกสองเดือนข้างหน้า เขากำลังจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกในชีวิต ที่สาธารณรัฐเช็กและออสเตรียกับผมและครอบครัว ด้วยกำไรที่เก็บหอมรอมริบจากกิจการ

ถ้าเปรียบชีวิตการเงินของคนเป็นดั่งเกม ตาเดินแต่ละตา ย่อมมีความสำคัญต่อทั้งเกมบนกระดานชีวิตของเรา จริงอยู่ที่เราเปลี่ยนหมากที่เดินไปแล้วไม่ได้ แต่เราสามารถพลิกสถานการณ์ที่กำลังเพลี่ยงพล้ำให้ดีขึ้นจากตาเดินตาต่อไปได้

และทั้งหมดขึ้นอยู่กับคุณว่าจะเลือกเดินมันอย่างไร?

สิ่งสำคัญคือ ถึงวินาทีนี้ ... คุณมีกลยุทธ์ที่จะพลิกเกมบนกระดานชีวิตของคุณ หรือยัง?