posttoday

เตรียมเกษียณ อย่างมีความสุขสดใส

06 ตุลาคม 2559

วิทยาการทางการแพทย์ที่เจริญก้าวหน้าทำให้คนไทยอายุยืนขึ้น คุณจึงมีเวลาเหลือ หลังเกษียณอีกกว่า 20 ปี

โดย...กันย์ ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์

วิทยาการทางการแพทย์ที่เจริญก้าวหน้าทำให้คนไทยอายุยืนขึ้น คุณจึงมีเวลาเหลือ หลังเกษียณอีกกว่า 20 ปี แถมบางคนยังเกษียณที่อายุ 50 กว่าทั้งๆ ที่ยังดูไม่แก่สักเท่าไหร่เลย แล้วจะเตรียมรับมือใช้ชีวิตหลังเกษียณให้มีความสุขสดใสสมวัยได้อย่างไร วันนี้มีข้อคิดที่ดีๆ มาฝากกันค่ะ ด้วยแนวทางปฏิบัติ 8 ประการเพื่อให้ชีวิตเป็นสุข ทั้งกาย ใจ และมีสังคมที่ดี

1หมั่นดูแลสุขภาพ ดัวยหลัก 5 อ. ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆ ใกล้ๆ ตัว

- อ.อาหาร : กินให้ถูกหลักอนามัย ครบห้าหมู่ ผักผลไม้ให้มาก เนื้อสัตว์ให้น้อย

- อ.ออกกำลังกาย : อย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3 วัน หรือจะเดินเร็วทุกวัน วันละ 15 นาที

- อ.อารมณ์ : ดูแลจิตใจให้แจ่มใสปล่อยวาง รู้จักให้ ไม่ยึดติดกับเรื่องใดๆ มากเกินไป

- อ.อ้วนลงพุง : ควรควบคุมน้ำหนักไม่อ้วนเกินไป พยายามคุมน้ำหนักกินมื้อเย็นให้เร็ว ไม่กินอะไรดึกๆ ดื่นๆ

- อ.อันตราย หลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นพิษให้โทษต่อสุขภาพ เช่น เหล้า บุหรี่ อบายมุข อุบัติเหตุ สารพิษ มลพิษ

2หมั่นตรวจเช็กสุขภาพเป็นระยะ เพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพและโรคเงียบ ซึ่งเป็นโรคที่แฝงอยู่ในร่างกายโดยไม่ปรากฏอาการ เช่น เบาหวาน ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง มะเร็งระยะแรก เป็นต้น เมื่อพบว่ามีโรคประจำตัว ก็ต้องดูแลรักษาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อควบคุมโรค ป้องกันโรคแทรกซ้อน และอายุยืน พึงหลีกเลี่ยงการใช้ยา และวิธีรักษาอย่างผิดๆ เช่น การกินยาชุด ยาลูกกลอนที่มีสเตียรอยด์อันตราย การบำบัดที่ยังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์ว่าได้ผลจริง ซึ่งบางครั้งทำให้สิ้นเปลืองหรือกลับมีพิษภัย จะรับประทานอะไรหากไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์

3รู้จักวางแผนการเงินและการใช้จ่ายต่างๆ ให้สมกับวัยและเวลา ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (พอประมาณ มีเหตุผล มีความรู้) จะเป็นหลักที่ยั่งยืนที่สุด โดยอาจขอคำแนะนำจากสถาบันทางการเงินหรือตัวแทนประกันชีวิตที่ท่านเลือกใช้อยู่เดิม เขาจะมีทีมงานด้านการวางแผนเงินออม และการลงทุนที่เหมาะสมแก่ท่าน เพื่อการมีรายรับ มีหลักประกันที่มั่นคงยามสูงอายุ

4อย่าเกษียณอายุจากความสุขของชีวิตและงาน ทั้งงานประจำหรืองานอดิเรก พึงทำในสิ่งที่ชอบต่อไปได้ หรืออาจเสริมเช่น งานจิตอาสา (บำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น) ออกสมาคมกับผู้คนกลุ่มที่ท่านสนใจ เข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่ม/ชมรม/สมาคม/มูลนิธิ เพื่อเปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ฝึกสมอง การได้พูดคุย แสดงออก แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในชีวิต นั้นเป็นการสร้างคุณค่าและความภูมิใจให้ตนเองและช่วยสร้างเพื่อนใหม่ ลดความเครียดได้อย่างดีอีกทางหนึ่ง

5ให้เกียรติและเคารพความคิดของผู้อื่น รวมทั้งการปรับตัวเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ รวมถึงเทคโนโลยีเพื่อลดช่องว่างกับคนรุ่นหลังโดยเฉพาะ คนรุ่น generation B (baby boom) อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปแล้วกับรุ่นอื่นๆ โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้คนต่างๆ ฝึกฟังที่เปิดใจ เพื่อเข้าใจผู้อื่น ยอมรับความแตกต่างหลากหลายระหว่างช่วงวัย ประสบการณ์ และการเปลี่ยนแปลงของสังคมรวมไปถึงเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ การใช้อินเทอร์เน็ต หรือการติดต่อสื่อสารด้านอื่นๆ ให้คิดว่าเป็นสิ่งสนุกและเป็นการฝึกสมองไปอีกทางหนึ่ง นอกจากจะทำให้รู้สึกกว่าทันยุคทันเหตุการณ์แล้วยังเสริมสร้างความรักความเข้าใจในครอบครัวอย่างมากอีกด้วย

6รู้จักปล่อยวางอารมณ์ อย่ายืดมั่นถือมั่นหรือยึดติดในตนเองในอดีตที่ผ่านมานัก การเวลาเปลี่ยน สังคมเปลี่ยน บุคคลความคิดเปลี่ยน อีกทั้งในเรื่องความรู้ ประสบการณ์ของตนเองมากจนเกินไปนัก ยอมรับตรงนี้ได้ท่านจะมีความสุขขึ้นมากๆ เลย

7ให้เห็นสภาพความเป็นจริง และเข้าใจว่าทุกสิ่งนั้นมีความไม่เที่ยงแท้แน่นอน มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทั้งตัวเราเองและสิ่งแวดล้อม การปรับตัวเป็นสิ่งจำเป็นหากท่านทำได้ก็จะมีความสุขทั้งในจิตใจเองและความสัมพันธ์กับคนรอบข้างก็จะดีขึ้นอย่างแน่นอน

8การใช้หลักธรรมะที่ท่านเคารพนับถือ ออกกำลังร่างกายและจิตใจโดยการฝึกผ่านการอบรมและนำมาปฏิบัติ การทำกิจวัตรประจำวัน การเล่นกีฬา ออกกำลังกายรวมทั้งฝึกตามดูรู้ทันความรู้สึก และความคิดของตนเองอยู่เสมอ ซึ่งจะช่วยให้หยุดหรือควบคุมอารมณ์ที่ไม่ดีและความคิดที่ไม่ทำให้มีความสุขได้อย่างดี

การปรับตัวและจิตใจสำหรับผู้สูงวัยนั้นสำคัญมาก ดังที่ได้แนะนำไปรวม 8 ข้อลองนำไปใช้ดูนะคะ จะได้สูงวัยอย่างมีความสุขที่สุดค่ะ