posttoday

ไอเดียเศรษฐีอยากมีเงินล้าน

25 กุมภาพันธ์ 2559

ไอเดียสำหรับการเก็บเงินล้าน เพื่อเป็นแนวทางให้ใครหลายๆ คนที่กำลังเริ่มต้นตั้งเป้าหมาย

โดย...อณุสรา  ทองอุไร ภาพ... คลังภาพโพสต์ทูเดย์

ไอเดียสำหรับการเก็บเงินล้าน เพื่อเป็นแนวทางให้ใครหลายๆ คนที่กำลังเริ่มต้นตั้งเป้าหมาย คือวิธีคิดแบบมหาเศรษฐีโลก เพราะความสำเร็จและความร่ำรวยของมหาเศรษฐีตัวจริงไม่ใช่เรื่องของการบริหารธุรกิจอย่างไรทำให้กำไรสูงสุด แต่เป็นการบริหารจัดการกับความมั่งมีอย่างไรให้คงอยู่ตลอดกาล

1.“ล้านแรก” เริ่มต้นจากการลงมือทำ... พอล เกตตี มหาเศรษฐีคนแรกของอเมริกา กล่าวว่า ปัจจัยที่จะทำให้ร่ำรวยได้ก็คือความรู้ สิ่งที่เขาให้ความสำคัญ คือ ถ้าอยากรวย ให้ตื่นแต่เช้าตั้งใจทำงานทุกวันและทำธุรกิจเพื่อหาเงิน เขามองว่าโชคเป็นสิ่งที่สร้างเองไม่ได้ แต่การตื่นเช้า ตั้งใจทำงาน และทำธุรกิจ เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนทำได้เองและทำได้ทันที เขาเชื่อว่า นิสัยประหยัดและรู้จักใช้จ่ายเป็นสิ่งสำคัญต่อการคิดแบบเศรษฐีเงินล้าน นิสัยประหยัดเป็นผลดีกับผู้ที่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง เพราะความประหยัดคือกำไรของธุรกิจ เมื่อไรที่ปฏิบัติจนเป็นนิสัย เมื่อทำธุรกิจคนพวกนี้จะรู้จักวิธีลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้

2.ประหยัด... ไม่ใช่เรื่องของการขี้เหนียว แต่มันเป็นทัศนคติและการมองให้ขาดระหว่างความจำเป็นกับความฟุ่มเฟือย วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนเขาซื้อไร่เล็กๆ ให้กับตัวเองได้ตั้งแต่อายุ 14 ด้วยเงินที่เก็บออมจากการส่งหนังสือพิมพ์ จุดเริ่มต้นเล็กๆ ในวันนั้นทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีในวันนี้ แต่ถึงเขาจะเป็นบุคคลที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ ของโลกเขาก็ยังพักในบ้านหลังเดิม ขับรถคันเดิม กินอาหารธรรมดา ลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ขณะที่ จอร์จ โซรอส นักวิเคราะห์ค่าเงิน นักลงทุนหุ้น มหาเศรษฐีอันดับที่ 29 ของโลก เขานั่งแท็กซี่ไปทำงานแทนการซื้อรถหรูๆ ด้วยเหตุผลว่าเขาทำรายได้จากเงินลงทุนได้ประมาณ 39% ต่อปี ถ้าซื้อรถ 1 คัน ราคา 1 ล้านบาท ใช้ได้ 10 ปี มันก็จะกลายเป็นเศษเหล็กทันทีที่ขาย แต่หากนำเงินที่จะซื้อรถคันนี้ไปลงทุน 10 ปี จะได้เงิน 32 ล้านบาท คิดแบบนี้แล้วซื้อไม่ลง”

3.ต้องลงทุนกับตัวเอง... วอร์เรน บัฟเฟตต์ กล่าวว่า การลงทุนที่ได้กำไรคุ้มค่าที่สุด คือ การลงทุนกับตัวเอง ก็คือความรู้ ส่วนใหญ่แล้วเงินมากมายมหาศาลที่พวกเขาหามาได้ ล้วนมาจากความเฉลียวในการเปลี่ยนความสามารถของตัวเองให้กลายเป็นตัวเงิน ยิ่งคุณมีความรู้มากเท่าไร เท่ากับคุณต่อยอดความคิดและไอเดียให้กับตัวเองมากเท่านั้น การจัดสรรเวลาให้กับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก็ถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะความรู้ด้านการตลาด เป็นสิ่งที่นักธุรกิจต้องเรียนรู้ตลอดเวลา การเรียนรู้จากคนที่เก่งกว่าเป็นกุญแจสำคัญ

4.จัดการทรัพย์สินอย่างเป็นระบบ... ทักษะการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย อีกหนึ่งทักษะที่เศรษฐีทั่วโลกมีเหมือนกัน คือ ทักษะการจัดการทรัพย์สินอย่างมีระบบ คาร์ลอส สลิม เจ้าของธุรกิจสื่อสารชาวเม็กซิกัน ครองแชมป์มหาเศรษฐีของโลกติดต่อกัน 4 ปี เคล็ดลับ คือ การจดรายรับ-รายจ่ายในแต่ละวัน เขาบอกว่านี่คือพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้รู้จักบริหารจัดการทรัพย์สิน และยังเพิ่มนิสัยของการรู้จักคิดก่อนซื้ออีกด้วย

จอหน์ เดวิด ร็อกกีเฟลเลอร์ จูเนียร์ มหาเศรษฐีคนแรกของโลก ผู้ก่อตั้งบริษัท สแตนดาร์ด ออยล์ อุตสาหกรรมน้ำมันและกิจการโรงกลั่นที่ถือครองเอกสารสิทธิการค้าน้ำมันแต่เพียงผู้เดียวในสหรัฐ เป็นเจ้าของโรงกลั่นที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่อายุ 25 พ่อแม่สอนให้รู้จักการทำสมุดบัญชีรายรับ-รายจ่าย รู้ถึงการลงทุนและกำไรที่ได้ว่าคุ้มมากน้อยเพียงไร

การใส่ใจทุกเม็ดเงินที่เข้าและออกคือกุญแจ เมื่อคุณจดบันทึกการใช้จ่าย ความปรารถนาที่จะใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายจะหมดไป เพราะจะทำให้คุณเห็นนิสัยการใช้เงินของตัวเองอย่างชัดเจนว่าใช้จ่ายไปกับเรื่องใดมากที่สุด ถึงสิ้นเดือนที่เงินในบัญชีลดลง หากย้อนกลับไปดูประวัติการใช้เงินของตัวเองที่จดอย่างละเอียด จะเห็นเลยว่าพลาดตรงไหน การหาทรัพย์ยากยิ่งกว่าการเก็บรักษาและวิธีการจัดการทรัพย์สินที่ง่ายที่สุด คือ “การออม”

5.รายรับ-เงินออม=รายจ่าย... แอนดรูว์ คาร์เนกี ราชาอุตสาหกรรมเหล็กในช่วงศตวรรษที่ 19 กล่าวว่า เขาร่ำรวยจากการเก็บออม ลักษณะที่เหมือนกันของมหาเศรษฐี ก็คือ มีรายได้มากกว่ารายจ่าย มหาเศรษฐีทุกคนเริ่มเก็บเงินตั้งแต่หาเงินได้ การที่ตระกูลของมหาเศรษฐีรอบโลกยังคงรักษาสถานทางการเงินไว้ได้หลายชั่วอายุคน ไม่ใช่การปลูกฝังเรื่องการหาเงินให้มาก แต่เป็นการปลูกฝังให้รู้จักการจัดการทรัพย์สินที่หามาได้อย่างเป็นระบบต่างหาก เมื่อหาเงินได้ สิ่งแรกที่ทำ คือ ออมเงิน การออมเงินจะเป็นถนนที่พาคุณไปสู่การเป็นมหาเศรษฐีตัวจริง หากจะเรียกใครว่าเป็นเศรษฐีให้ดูที่ยอดเงินคงเหลือในบัญชี ไม่ใช่รายได้ที่หามาได้