posttoday

ลาภลอย ไม่ใช่แค่ลาภ ภาษีมาด้วย

27 พฤศจิกายน 2557

เห็นข่าวคนโน้นคนนี้ถูกรางวัลกันใหญ่เลย ถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ได้กันคนละหลายๆล้านบ้างหล่ะ บางคนก็ถูกรางวัลพวกชิงโชคบ้างหล่ะ

โดย...สาธิต บวรสันติสุทธิ์

เห็นข่าวคนโน้นคนนี้ถูกรางวัลกันใหญ่เลย ถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ได้กันคนละหลายๆล้านบ้างหล่ะ บางคนก็ถูกรางวัลพวกชิงโชคบ้างหล่ะ เห็นแล้วอิจฉามั่กๆ เมื่ออิจฉาก็ทนไม่ได้ อยากรู้ต่ออีกว่า เสียภาษีป่าว? ถ้าไม่เสียหล่ะก้อ โอ๊ย จะบ้าตาย งั้นเรามาเริ่มดูพวกลาภลอยต่างๆเหล่านี้เลยดีกว่านะ ว่าแต่ละอย่างเสียภาษีหรือไม่ อย่างไร

เริ่มจากสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ ล็อตเตอรี่ที่ แม้โอกาสถูกรางวัลจะน้อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ก็เป็นที่นิยมของใครหลายคน เงินรางวัลจากสลากกินแบ่งรัฐบาล มีกฎหมายยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไว้ครับ ให้คิดแค่ค่าอากรแสตมป์ร้อยละ 50 สตางค์เท่านั้นเอง ส่วนสลากพิเศษ เช่น พวกสลากการกุศล ฯลฯ ก็เสียภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย แค่ร้อยละ 1 เท่านั้นเองเหมือนกัน โอ๊ย อิจฉาฝุดๆ รางวัลก็เยอะ ภาษีก็น้อย

ลำดับถัดมา ก็คือ เงินรางวัลจากรายการชิงโชคต่างๆ อันนี้ก็ได้กันเป็นล้านเหมือนกัน เสียภาษีหรือไม่ คำตอบ คือ รายได้จากรางวัลชิงโชค ไม่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครับ โดยผู้ถูกรางวัลต้องเสียภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย 5% แล้วยังต้องนำมารวมเป็นเงินได้ปลายปีเสียภาษีในอัตราตามฐานภาษีของผู้รับเงินได้เลยครับ ทำให้ผู้ถูกรางวัลชิงโชคใหญ่ของเอกชนเสียภาษีอานเลยครับ เลี่ยงไม่ได้ด้วย เพราะเอกชนที่ให้รางวัลเรา เขาลงรายการเป็นรายจ่ายของบริษัท และนำส่งภาษีที่หัก ณ ที่จ่ายโดยอ้างอิงเลขประจำตัวประชาชนของเราให้กรมสรรพากรไปเรียบร้อยแล้วครับ ตัวอย่างกรณีนี้ที่เคยเป็นข่าวดัง ก็คือ กรณีน้องปลายฟ้า ศรีหาคม อายุ 4 ขวบ ซึ่งเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลเงินสด 1,000,000 บาทและรถยนต์ 1 คัน จากการโหวตชื่อแพนด้าหลินปิง ต้องถูกกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีอีกถึง 270,000 บาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็เคยถูกหักภาษาเงินได้ ณ ที่จ่ายไปแล้ว 5% หรือประมาณ 5 หมื่นบาทครับ สาเหตุเป็นเพราะผู้ปกครองน้องปลายฟ้าเข้าใจผิด คิดว่า เมื่อถูกหักภาษาเงินได้ ณ ที่จ่ายไปแล้ว 5% ก็ถือว่าจบกัน เสียภาษีเรียบร้อยแล้ว จริงๆแล้ว เข้าใจผิดครับ กรณีน้องปลายฟ้าก็เลยต้องเสียภาษีอานอีกคน

ลาภลอยอีกตัวนึงที่มีคนนิยมมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน ก็คือ การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ จริงๆไม่อยากเรียกการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เป็นลาภลอย เพราะผู้ลงทุนต้องศึกษาหาข้อมูล วิเคราะห์ ทำการบ้านมากมาย แต่ก็มีคนบางกลุ่มเหมือนกันนะครับที่ซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เหมือนกับเล่นการพนัน บางคนเอาโหราศาสตร์มาประกอบการตัดสินใจลงทุนด้วย ไม่ว่ากันครับ สไตล์ใครสไตล์มัน ขอเพียงลงทุนแล้วได้กำไรก็พอ แล้วการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ต้องเสียภาษีมั๊ย ผลตอบแทนของการลงทุนในหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ มี 2 อย่างครับ
 
อย่างแรก คือ กำไรจากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ อันนี้ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครับ (แต่ต้องซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้นครับ ถ้าซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ อันนี้ต้องเอากำไรมารวมเป็นเงินได้ปลายปีเสียภาษีในอัตราตามฐานภาษีของผู้รับเงินได้เลยครับ เสียภาษีอานอีกแล้ว

อย่างที่สอง คือ เงินปันผลที่หุ้นที่เราลงทุนจ่ายให้กับเราครับ อันนี้ เราจะถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย 10% ซึ่งเงินปันผลเป็นตัวนึงในภาษีสุดท้าย (final tax) ที่เราสามารถเลือกว่าจะเอาไปรวมในฐานเงินได้ปลายปีเพื่อเสียภาษีเงินได้หรือไม่ก็ได้ ถ้าเราไม่เอาเงินปันผลไปรวมคำนวณเงินได้ปลายปี ก็เท่ากับเรายอมเสียภาษีสำหรับเงินปันผลที่ 10% แต่ถ้าเราเลือกเอาเงินปันผลไปรวมคำนวณเงินได้ปลายปี แม้เงินได้ที่สูงขึ้น จะทำให้เราต้องเสียภาษีมากขึ้นตามฐานภาษี แต่เราก็สามารถขอเครดิตภาษีเงินปันผลได้ในอัตราเท่ากับ เงินปันผล * อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่จ่ายเงินปันผล/(1- อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่จ่ายเงินปันผล) ถ้าหากเงินได้เรายังต่ำๆอยู่ การเอาเงินปันผลไปรวมคำนวณเงินได้ปลายปีอาจทำให้เราได้ภาษีคืนมาหรือได้กำไรภาษีก็ได้นะครับ อ้อ ลืมบอกไป ถ้าจะเอาเงินปันผลไปรวมคำนวณเงินได้ปลายปี ถ้าจะรวมต้องรวมเงินปันผลทุกตัวที่เราได้ ถ้าไม่รวมก็ไม่รวมเลยซักกะตัว จะเลือกเอาเงินปันผลเฉพาะบางตัวมารวมคำนวณไม่ได้นะครับ กรมสรรพากรไม่ยอม

คำถามที่บางคนสงสัยเพิ่ม ก็คือ หากคนที่ถูกรางวัล เอารางวัลไปขายต่อ แล้วเกิดขายได้เกิน 1,800,000 บาทจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มมั๊ย  ตอบให้เลย ไม่ต้องเสียครับ เพราะผู้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม คือ ผู้ประกอบการตามมาตรา 77/1 (5) และมาตรา 82(1) ความหมายของผู้ประกอบการ คือ บุคคลซึ่งขายสินค้าหรือให้บริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพ ... ดังนั้นผู้ได้รับรางวัลแล้วไปขายต่อไม่ใช่การกระทำในทางธุรกิจหรือวิชาชีพ จึงไม่ถือว่าเป็นผู้ประกอบการที่มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มครับ

ท่านที่สนใจบทความทางการเงินที่ผมได้เขียนเองและได้รวบรวมจากแหล่งต่างๆสำหรับเผยแพร่ให้ท่านผู้สนใจทุกท่าน ขอเชิญไปกด Like ได้ที่ page ใน face book ชื่อ SathitBovornsantisuth CFP เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารต่อไปได้ครับ...ขอบคุณครับ