ซมโปะ ประกันภัยชูนวัตกรรมยกระดับมาตรฐานบริการ

ผศ.ชญณา ศิริภิรมย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่าง ๆ ทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างยากลำบาก ซมโปะ ประกันภัยได้ใช้ช่วงเวลานี้พัฒนาเทคโนโลยีภายในองค์กร มุ่งเสริมสร้างการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และพัฒนาการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น สามารถลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก ช่วยเพิ่มความสะดวกและรวดเร็ว ส่งผลดีทำให้ลูกค้ารายย่อยได้รับความสะดวกอย่างสูงสุด ทั้งยังทำให้พาร์ทเนอร์ที่เป็นผู้ขายสามารถคีย์กรมธรรม์และออกกรมธรรม์ได้เองที่หน้างาน รวมถึงสามารถตอบคำถามลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีการให้บริการหลายอย่างอาจดูเป็นจุดเล็ก ๆ แต่มาจากการใส่ใจในทุกรายละเอียดที่เกี่ยวกับประสบการณ์ตรงของลูกค้า ตลอดจนบริการ Call Center ก็ได้มีการจัดอบรมเพื่อมอบการดูแลให้กับลูกค้าด้วยใจรักการบริการ ทั้งหมดเรียกได้ว่าเป็น DNA ของความเป็นญี่ปุ่นที่บริษัทมีอย่างต่อเนื่องในการดูแลลูกค้าอย่างเสมอมา

พร้อมกันนี้ ยังได้นำเทคโนโลยีดาต้า (Data) มาใช้ในการคำนวณราคาเพื่อให้เกิดความแม่นยำ นับเป็นการจัดการความเสี่ยงที่เป็นธรรมทั้งแก่ลูกค้าและบริษัทเอง เพื่อส่งมอบมาตรฐานบริการที่ดีให้แก่ทุกคน โดยในส่วนของลูกค้าโรงงาน มีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยดูแลความเสี่ยง เช่น การใช้โดรนเพื่อสำรวจโรงงานแทนการใช้พนักงานขึ้นไปสำรวจ ทำให้พนักงานของบริษัทมีความปลอดภัยมากขึ้น ไม่ต้องปีนขึ้นไปสำรวจ และยังใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเป็นเครื่องมือในการคำนวณความเสี่ยง สำหรับการให้คำแนะนำแก่ลูกค้าโรงงานว่าควรควบคุมความเสี่ยงของโรงงานอย่างไร เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงไว้ก่อนทำให้ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันในอัตราที่สูงเกินความจำเป็น

“ทั้งหมดเป็นจุดแข็งของซมโปะประกันภัยที่เน้นเรื่องนวัตกรรมในทำงาน เพื่อมอบความสะดวกสบายให้แก่ทั้งลูกค้าและคู่ค้าของเรา มีผลทำให้พนักงานมีเวลาที่จะหาโซลูชันใหม่เพิ่มขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยเน้นกระบวนการทำงานที่ไม่ซับซ้อน มีความพร้อมปรับเปลี่ยนและยืดหยุ่นภายใต้การดำเนินธุรกิจที่ถูกต้อง เพราะเชื่อว่าบริษัทประกันที่มีความยืดหยุ่นมากที่สุดให้กับพาร์ทเนอร์ จะช่วยให้การทำงานมีความคล่องตัว และสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจได้ดีขึ้น” ผศ.ชญณา กล่าว

เดินหน้าขยายตลาดสู่กลุ่มลูกค้ารายย่อยในประเทศไทย

นอกจากการนำเทคโนโลยีมาเสริมประสิทธิภาพและการให้บริการที่ดียิ่งขึ้นแล้ว ซมโปะ ประกันภัย มุ่งมั่นที่จะขยายฐานลูกค้ารายย่อยให้เติบโตยิ่งขึ้น จากเดิมที่เน้นลูกค้ารายใหญ่ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการญี่ปุ่น หรือกลุ่มโรงงาน แต่นับตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา ได้ขยายเซกเม้นท์เข้าไปในกลุ่มลูกค้ารายย่อยมากขึ้น เนื่องจากเห็นโอกาสของธุรกิจประกันในประเทศไทยที่มีทิศทางเติบโตได้อีกมาก โดยนำแนวคิด การดูแลคนไทยด้วยหัวใจญี่ปุ่น มาใช้ดูแลคนไทย ถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นทำให้เกิดความแตกต่าง จนได้รับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่น และลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่มาโดยตลอด

สำหรับแผนการขยายฐานลูกค้ารายย่อย จะเริ่มจากสิ่งที่บริษัทเชี่ยวชาญนั่นคือ ประกันภัยการเดินทาง โดยเน้นกลุ่มลูกค้าคนไทยที่นิยมไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เพราะบริษัทฯมีเครือข่ายอยู่ในญี่ปุ่นจำนวนมากที่จะเข้ามาช่วยทำให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวมีความสะดวกและราบรื่นยิ่งขึ้น เปรียบเสมือนมีเพื่อนดูแลในการเดินทาง ส่วนในช่วงโควิด-19 ที่ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวหยุดชะงัก บริษัทได้จัดทำแผนสำรองโดยออกผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ และเน้นตลารถกระบะซึ่งยังสามารถเติบโตได้ดี เนื่องจากได้ทำการวิจัยตลาดแล้วพบว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หรือธุรกิจขนาดเล็กนิยมใช้รถกระบะในการสร้างรายได้ รวมถึงได้เตรียมแผนทำตลาดประกันสุขภาพควบคู่กันไปด้วย เพื่อรองรับความต้องการของคนไทยที่ให้ความสำคัญกับการเลือกประกันสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19

แนะต้องมีแผนสอง “ประกัน” ตัวช่วยบริหารความเสี่ยง

ผศ.ชญณา กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ยังมีความเสี่ยงจากสถานการณ์โควิด-19 นอกจากทุกคนต้องระมัดระวังป้องกันความเสี่ยงและดูแลสุขภาพให้แข็งแรงแล้ว สิ่งสำคัญกว่านั้นควรจะมีแผนที่สองรองรับไว้เสมอด้วยการมีประกันเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยงทางการเงิน เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ตนเองและครอบครัว จึงอยากแนะนำว่าควรแบ่งเงินส่วนหนึ่งเพื่อทำประกันไว้เป็นแผนรองรับกรณีฉุกเฉิน แต่การจะซื้อประกันสุขภาพก็ต้องเลือกในแบบที่เหมาะสมกับตนเอง และประเมินว่าสามารถแบกรับได้แค่ไหน ควรเลือกแบบที่ไม่หนักเกินไปและไม่น้อยเกิน เพื่อให้สะดวกมากที่สุด

“ซมโปะ ประกันภัย มุ่งเน้นมอบความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า และพร้อมช่วยดูแลความเสี่ยงด้วยแนวคิดคือ ต้องการดูแลคนไทยด้วยหัวใจญี่ปุ่น เพราะบริษัทเข้าใจคนไทยที่ต้องการประกันที่เข้าใจง่าย เรียบง่าย และมีความเป็นมิตร คือเข้าถึงได้ง่าย จากแนวคิดดังกล่าว ทำให้เราสามารถเป็นที่พึ่งให้กับลูกค้าได้ด้วยความเข้าอกเข้าใจ ซึ่งนอกจากมีความเชี่ยวชาญ ชำนาญในงานแล้ว เรายังเป็นผู้รับฟังที่ดี ถือเป็นหัวใจของการบริการที่เราดูแลทุกคนเหมือนคนในครอบครัวของเรา” ผศ.ชญณา กล่าว

มั่นใจปี 2564-2565 เติบโตสองหลักได้ต่อเนื่อง

ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ภาพรวมการดำเนินงานของซมโปะ ประกันภัยยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยได้แรงขับเคลื่อนหลักจากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่เป็นเซกเมนท์หลัก โดย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2564 มีเบี้ยรับรวมอยู่ที่ 2,332 ล้านบาท เติบโต 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งสัดส่วนเป็นลูกค้าญี่ปุ่น 75% และลูกค้าไทยมีสัดส่วน 25% ซึ่งมีอัตราการเติบโตเป็น 2 เท่าของอัตราเฉลี่ยในตลาด ส่วนกลุ่มลูกค้ารายย่อย มีการเติบโตที่ดีในเซกเม้นท์ประกันสุขภาพ แสดงให้เห็นว่าคนไทยใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น ส่วนประกันการเดินทางอยู่ในระดับทรงตัว เนื่องจากการเดินทางที่ยังชะลอตัวอยู่

สำหรับใน 2564 ซมโปะ ประกันภัย วางเป้าหมายการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงกว่าตลาดประกันภัยโดยรวม ขณะที่ในปี 2565 บริษัทฯมีแผนจะเดินหน้าขยายฐานกลุ่มลูกค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าหมายการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักเช่นกัน โดยมีผลิตภัณฑ์ประกันที่นำเสนอต่อลูกค้า ทั้งประกันสุขภาพ และประกันรถยนต์