posttoday

คปภ.เร่งบริษัทประกันจ่ายนักศึกษาเสียชีวิต13ราย

30 กันยายน 2562

คปภ. เร่งประกันกรณีนักศึกษาฝึกงานวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต 13 ราย บาดเจ็บ 6 ราย ที่จังหวัดสมุทรปราการ

คปภ. เร่งประกันกรณีนักศึกษาฝึกงานวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต 13 ราย บาดเจ็บ 6 ราย ที่จังหวัดสมุทรปราการ

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีรถกระบะหมายเลขทะเบียน ผจ 5322 ระยอง เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทางพลิกคว่ำบริเวณถนนกิ่งแก้วปากทางเข้าซอยกิ่งแก้ว 21 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย และผู้บาดเจ็บ 6 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ที่มาฝึกงานกับอู่ซ่อมรถยนต์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2562 นั้น

เบื้องต้น คปภ. ตรวจสอบการทำประกันภัยพร้อมเร่งอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัย รวมทั้งให้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม

ทั้งนี้ รถกระบะหมายเลขทะเบียน ผจ 5322 ระยองได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัท สินทรัพย์ประกันภัย เริ่มคุ้มครองวันที่ 7 สิงหาคม 2561 แต่อายุการคุ้มครองสิ้นสุดในวันที่ 7 สิงหาคม 2562 ไปแล้ว จึงไม่ได้รับความคุ้มครอง ทั้งยังไม่พบว่ารถกระบะคันดังกล่าวทำประกันภัย รถภาคสมัครใจไว้แต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ได้ทำประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มให้กับนักศึกษาไว้กับ บริษัท วิริยะประกันภัย แบบประกันอุบัติเหตุกลุ่ม ปี 2562 AEC Plus อัญมณี 1689 ในกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั่วไป จะได้รับความคุ้มครอง 100,000 บาทต่อคน

สำหรับ การจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 13 ราย และผู้บาดเจ็บ 6 ราย นั้น คปภ. ได้เร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้บาดเจ็บและทายาทผู้สูญเสียโดยเร็ว

อนึ่ง กรณีที่กรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ของรถกระบะคันเกิดเหตุหมดอายุไปวันที่ 7 สิงหาคม 2562 ทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองนั้น สำนักงาน คปภ. จังหวัดสมุทรปราการ ได้ประสานไปยังกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ที่ตั้งอยู่ตามภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิต เพื่อประสานกับทายาทโดยธรรมของผู้เสียชีวิตในการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นกรณีเสียชีวิตรายละ 35,000 บาท ส่วนผู้บาดเจ็บที่รักษาตัว ทางโรงพยาบาลสามารถใช้สิทธิยื่นเบิกเงินต่อกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยตามที่จ่ายจริงรายละไม่เกิน 30,000 บาท ส่วนกรณีที่ผู้ประสบภัยเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้วต่อมาเสียชีวิต ก็มีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงรายละไม่เกิน 30,000 บาท และได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นกรณีเสียชีวิตอีกรายละ 35,000 บาท รวมเป็น 65,000 บาท

ดังนั้นในเบื้องต้นจากกรณีเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เบื้องต้นผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินเยียวยาจากระบบประกันภัยรายละ 135,000 บาท และผู้บาดเจ็บจะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงรายละไม่เกิน 30,000 บาท และหากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบอุบัติเหตุมีการทำประกันภัยประเภทอื่นๆ เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุประเภทอื่นๆ ก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้อีกด้วย