เมืองไทยประกันชีวิตรุกตลาดคนรุ่นใหม่บนตลาดอีคอมเมิร์ซ

เมืองไทยประกันชีวิต ผนึก Shopee ส่งโครงการ Healthsurance ดูแลสุขภาพคนยุคดิจิทัลบนตลาดอีคอมเมิร์ซ

นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต (MTL) เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันชีวิตบนตลาดอีคอมเมิร์ซ ผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ Shopee ภายใต้ชื่อร้านค้า “Muang Thai Life Official” ซึ่งนับเป็นการขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้า (Touch Points) ที่ครอบคลุมและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิทัล ซึ่งประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดี

ล่าสุด เมืองไทย ประกันชีวิต ได้ร่วมกับ ช้อปปี้ (Shopee) ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพ ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคดิจิทัลได้อย่างเหมาะสม ในโครงการ “Shopee Connect x Muang Thai Life : Healthsurance” เจาะกลุ่มคนยุคใหม่ที่มองหาหลักประกันที่ช่วยสร้างความสุข ความอุ่นใจด้านสุขภาพ และสามารถเข้าถึงการประกันชีวิตได้ง่าย ๆ บนโลกออนไลน์ แค่คลิกเข้าไปและเลือกซื้อตามแบบที่ชอบ

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้คัดสรรผลิตภัณฑ์ใหม่มานำเสนอ ประกอบด้วย แบบประกันภัย “โครงการเมืองไทย Daily Protection” (ชดเชยรายได้รายวัน) ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าวัยทำงาน ที่ต้องการเพิ่มความอุ่นใจให้กับตนเอง หากต้องหยุดงานเพื่อนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลแต่ก็ยังมีค่าชดเชยรายได้ โดยแบบประกันภัยนี้จะมอบเงินชดเชยรายได้วันละ 3,000 บาท สูงสุด 365 วัน/ครั้ง ไม่ว่าจะบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยก็คุ้มครอง พร้อมคุ้มครองกรณีเสียชีวิต 50,000 บาท ทำได้ตั้งแต่อายุ อายุ 20 – 55 ปี

แบบประกันภัย “โครงการเมืองไทย Cancer Care” ตอบโจทย์ของลูกค้าที่มีความกังวลเกี่ยวกับโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็ง ซึ่งปัจจุบันถือเป็นเรื่องใกล้ตัวและเป็นโรคที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูง โดยแบบประกันภัยนี้จะให้ความคุ้มครองโรคมะเร็งตั้งแต่ระยะก่อนลุกลาม และระยะลุกลาม พร้อมสร้างความสบายใจด้วยตัวช่วยค่ารักษาพยาบาลหากตรวจพบมะเร็งระยะลุกลามรับเงินก้อน 500,000 บาท และคุ้มครองกรณีเสียชีวิต 50,000 บาท พร้อมนำเบี้ยประกันภัยไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ สามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 20 – 59 ปี

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ “โครงการเมืองไทย สุขภาพ Top Up” ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ความคุ้มครองที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในกลุ่มมนุษย์เงินเดือนได้เป็นอย่างดี รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย โดยเป็นการท็อปอัพ (Top Up) จากสวัสดิการหรือประกันสุขภาพที่มีอยู่ พร้อมนำเบี้ยประกันภัยไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)