โตเกียวมารีนฯรุกจ่าย3%ต่อปี ชำระเบี้ยครั้งเดียวรับยาว5-10ปี

โตเกียวมารีนฯ ปลุกกำลังซื้อปลายปีผุดสินค้าใหม่คืนเงิน 3% ต่อปี พร้อมปล่อยออมทรัพย์จับกลุ่มมนุษย์เงินเดือนวางแผนเกษียณ

นายสมโพชน์ เกียรติไกรวัล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือนที่เหลือของปีบริษัทได้ออกสินค้าใหม่เพื่อรองรับกลุ่มที่มองหา ผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากและออมทรัพย์ระยะยาวเพื่อรองรับกลุ่มคนที่ต้องการวางแผนภาษีช่วงปลายปี

สำหรับสินค้าระยะสั้นมี 2 แบบ คือ ชำระเบี้ยครั้งเดียวคุ้มครอง 10 ปี จ่ายเงินคืนปีละ 3% และแบบชำระเบี้ย ครั้งเดียวคุ้มครอง 5 ปี จ่ายเงินคืน ปีละ 2.77%

"จะขายเพียงแบบละ 100 ล้านบาทเท่านั้น รวมเป็น 200 ล้านบาท โดย เริ่มขายเมื่อต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการมองหา ผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝาก" นาย สมโพชน์ กล่าว

นายสมโพชน์ กล่าวว่า บริษัทได้ออกแบบประกันออมทรัพย์ที่วางโครงสร้างการออมให้เหมาะกับการวางแผนเกษียณ ชื่อ สมาร์ท แพลนนิ่ง ชำระเบี้ยจนถึงอายุ 60 ปี ทั้งแบบรายปีและรายเดือน สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 1 แสนบาท เบี้ยค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับตลาด เพื่อรองรับความต้องการของมนุษย์เงินเดือน และรองรับช่วงการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีช่วงปลายปี

ทั้งนี้ ยกตัวอย่าง ผู้หญิงอายุ 35 ปี ซื้อทุนประกันชีวิต 1 แสนบาท ชำระเบี้ย 12,100 บาท/ปี เมื่ออายุ 60 ปี ชำระเบี้ยรวม 302,500 บาท อายุ 61 ปี จะได้รับเงินปีละ 15,000 บาท จนถึงอายุ 90 ปี รวมเงินคืน 8 แสนบาท มีส่วนต่าง 497,500 บาท และความคุ้มครองชีวิตที่ซื้อไว้ 1 แสนบาท จะเพิ่มเป็น 365,000 บาท ในปีที่ 90

"ถ้าชำระเบี้ยรายเดือนจะอยู่ที่ 1,059 บาท/เดือน หรือวันละกว่า 35 บาทนิดหน่อย ถือว่าเบี้ยต่ำมากเมื่อเทียบกับตลาดที่คิดความคุ้มครอง 1 หมื่นบาท เบี้ยประมาณ 800 บาท แต่ของเราอยู่ที่หมื่นละประมาณ 500 บาท เพราะต้นทุนในการดำเนินงานของเราไม่ได้สูงมาก จึงสามารถทำสินค้าออกมาสู้คู่แข่งขันได้ เราออกแบบมาเพื่อเปิดโอกาสให้คนทั่วไปสามารถออมได้ ถ้าเราช่วยให้คนไทยมีเงินออมเพิ่มขึ้น ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว" นายสมโพชน์ กล่าว

นายสมโพชน์ กล่าวว่า สำหรับ 7 เดือนแรก ช่องทางตัวแทนมีเบี้ยรับรวม 2,155 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 5% ส่วนเบี้ยปีแรกมีประมาณ 400 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย เพราะอยู่ระหว่างการสร้างตัวแทนใหม่เข้ามาเสริมทีมเก่าที่ออกไป โดยยังคงเน้นสร้างบุคลากรในการขายแนวคิดการช่วยให้สังคมได้ตระหนักถึงการวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณให้เพียงพอ

นอกจากนี้ มองว่าการขายประกันชีวิตผ่านตัวแทนกับการขายประกันชีวิตผ่านธนาคาร จะมีกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน ซึ่งตัวแทนจะสามารถเสนอแบบประกันชีวิตที่เหมาะกับการวางแผนการเงินในระยะยาวได้ดีกว่าธนาคารพาณิชย์