คปภ.คิดค่าเสี่ยงลงทุนหุ้นเพิ่ม

คปภ.เข้มชงบอร์ดอนุมัติอาร์บีซีเฟส 1.5 คิดความเสี่ยงด้านปฏิบัติการและลงทุนในหุ้นเพิ่มเป็น 25%

น.ส.วสุมดี วสีนนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการสายพัฒนามาตรฐานการกำกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ คปภ.อยู่ระหว่างรวบรวมความคิดเห็นขั้นตอนสุดท้ายเกี่ยวกับบังคับใช้เรื่องเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (อาร์บีซี) ระยะที่ 1.5 กับบริษัทประกัน เพื่อนำเสนอให้กับคณะกรรมการ คปภ.พิจารณาอนุมัติภายปลายปีนี้ และคาดว่าจะเริ่มบังคับใช้ได้ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2562

อย่างไรก็ตาม อาร์บีซีระยะที่ 1.5 ยังคงใช้เกณฑ์อยู่ที่ 140% เหมือนกับระยะที่ 1 เพียงแต่ว่าได้เพิ่มความเข้มงวดเรื่องรายละเอียดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเสี่ยงด้านการปฏิบัติการ ความ ผิดพลาดด้านระบบ หรือความผิดพลาดด้านบุคลากร ให้คิดค่าการตั้งสำรองความเสี่ยงจากการลงทุนเพิ่มเข้าไปอีก 1% ของเบี้ยรับรวม จากเดิมที่ไม่เคยคิด

สำหรับด้านการลงทุนในหุ้นก็ให้คิดค่าการตั้งสำรองความเสี่ยงจากการลงทุนเป็น 25% จากเดิมอยู่ที่ 16% ด้านการลงทุนในตราสารหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เดิมถือว่าไม่มีความเสี่ยง หรือคิด 0% เทียบเท่ากับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ก็ได้มีการปรับเกณฑ์ใหม่โดยตราสารหนี้รัฐวิสาหกิจไหนที่มีอันดับเครดิตเรตติ้งของตัวเองอยู่ ก็ให้คิดค่าการตั้งสำรองความเสี่ยงจากการลงทุนตามเครเครดิตเรตติ้งของตัวเอง ส่วนรัฐวิสาหกิจที่ไม่มีการจัดอันดับเครดิตความเสี่ยงหรือไม่มีรัฐค้ำประกัน ก็ให้คิดเกณฑ์การตั้งสำรองความเสี่ยงจากการลงทุนเดียวกับหุ้นกู้เอกชนระดับ AA

"ตอนนี้เราคงใช้อาร์บีซีเฟส 1.5 ก่อน โดยภาพรวมแล้วก็ไม่ส่งผล กระทบต่อธุรกิจประกันภัยมากนัก เพราะหากเป็นบริษัทประกันที่ไม่ได้ลงทุนอะไรมากนักก็ไม่กระทบเท่าไร แต่ถ้าเป็นบริษัทประกันที่ลงทุนมาก็อาจกระทบมากหน่อย" น.ส.วสุมดี กล่าว

น.ส.วสุมดี กล่าวว่า ส่วนเรื่องการนำอาร์บีซีระยะที่ 2 มาใช้นั้น คงต้องเลื่อนออกไปก่อนไม่มีกำหนด เนื่องจากธุรกิจประกันได้ขอให้รอเรื่องการบังคับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS 17 ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก่อนว่าจะมีผลกระทบกับบริษัทประกันภัยมากน้อยแค่ไหน และตอนนี้ก็ยังไม่มีใครทราบชัดเจน ซึ่งเป็นเหตุผลที่รับฟังได้ เพราะขณะที่สิงคโปร์ และมาเลเซียก็ยังเลื่อนใช้อาร์บีซีระยะที่ 2 ออกไปก่อน

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า ทาง คปภ.จะออกแนวทางการประเมินความเสี่ยงและความมั่นคงทางการเงินของบริษัท (ORSA) มาภายในปีนี้ และคาดว่าจะบังคับใช้ได้ในช่วงกลางปี 2562 ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการทดสอบกับบริษัทประกันแล้ว พบว่าผลทดสอบอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ไม่มีปัญหาอะไร