เล็งดึงรถราชการทำพรบ.

คปภ.เล็งดังรถยนต์ราชการเข้าทำประกัน พ.ร.บ.หวังช่วยให้ประกันบริหารความเสี่ยงภัย

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า คปภ.มีแนวคิดที่จะรณรงค์ให้รถของหน่วยราชการต่างๆ เข้ามาทำประกัน พ.ร.บ.ให้มากขึ้น และอยากให้ประชาชนเห็นความสำคัญในการทำประกันภัยเพิ่มขึ้น หรืออย่างน้อยมีประกันไว้ 1 คน 1 กรมธรรม์ เพื่อช่วยให้ระบบการประกันภัยเข้ามาช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงภัยให้กับประชาชนได้อย่างเต็มที่

"ที่ผ่านมาภาคอุตสาหกรรมประกันภัยได้พยายามที่จะพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการโดยคำนึงถึงประชาชน ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง แต่ก็อยากให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการมีประกันไว้ด้วย" นายสุทธิพล กล่าว

นายสุทธิพล ยังได้กล่าวถึงเรื่องความสำคัญของเครือข่ายด้านการประกันภัยในยุคดิจิทัลว่า ทาง คปภ.ได้มีการกำหนดแผนการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ ฉบับที่ 2 (2560-2564) เพื่อเป็นแนวทางมุ่งไปสู่การเป็น ดิจิทัล อินชัวรันส์ เรกูเลเตอร์ ซึ่ง จะมีการเสริมสร้างดิจิทัล แพลตฟอร์ม เพื่อเปลี่ยนผ่านไปเป็นการประกันภัยในยุคดิจิทัล โดยมีเป้าหมายเพื่อการรักษาสมดุลระหว่างการคุ้มครองสิทธิประโยชนฺ์ของประชาชนและการส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมด้านดิจิทัลในอุตสาหกรรมประกันภัยอย่างทั่วถึง

อย่างไรก็ตาม การดำเนินตามแนวนโยบายและแผนงาน คปภ.กำหนดให้บรรลุเป้าหมายได้นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เกิดเป็นเครือข่ายกับประกันภัยในยุคดิจิทัล ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากข้อมูลที่จะนำมาใช้เพื่อการบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์นั้น ต้องมีข้อมูลในเชิงลึกและนำออกมาใช้ประโยชน์ได้

"ระบบสินไหมอัตโนมัติหรืออี-เคลม เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเครือข่าย เป็นระบบที่ภาคธุรกิจประกันภัยนำมาใช้เก็บข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ของประชาชน และสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาประมวลผลและจัดทำข้อมูลเพื่อให้การบริหารจัดการที่ดีได้" นายสุทธิพล กล่าว

นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า ทางสมาคมพร้อมสนับสนุนนโยบายของ คปภ.ที่ต้องการผลักดันให้รถของหน่วยราชการเข้ามาทำประกัน พ.ร.บ.เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงให้กับภาครัฐ เนื่องจากปัจจุบันกฎหมายไม่ได้บังคับให้รถราชการของทำประกัน พ.ร.บ. ดังนั้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ก็ต้องใช้งบประมาณของรัฐบาลเข้ามาบริหารจัดการความเสี่ยงเอง ซึ่งปัจจุบันคาดว่ามีรถราชการอยู่ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคัน

"ส่วนวิธีการจะทำอย่างไรนั้น เรากำลังศึกษาหาแนวทางอยู่ ซึ่งในช่วงแรกอาจเป็นลักษณะการให้ภาคธุรกิจประกันภัยเข้าไปให้บริการฟรีก่อน ไปให้บริการกับรถราชการ บริการกับผู้ประสบภัย ทำให้เห็นว่าภาคธุรกิจประกันสามารถช่วยดูแลเรื่องความเสี่ยงให้กับรัฐได้" นายจีรพันธ์ กล่าว