เอเซียพลัสฟันธงเบี้ยชีวิตโต8%

บล.เอเซีย พลัส คาดประกันชีวิตปีนี้โตได้ 8% หลังบริษัทแข่งขันเชิงรุก

น.ส.อุษณีย์ ลิ่วรัตน์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ได้คาดการณ์การเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตในปี 2558 ไว้ที่ 8% สูงกว่าคาดการณ์ล่าสุดของสมาคมประกันชีวิตไทยที่ปรับลดเป้าหมายเติบโตเหลือ 7% หรือมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 5.39 แสนล้านบาท จากต้นปีที่คาดว่าจะเติบโต 13% หรือมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 5.71 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ การเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตมาจากการที่บริษัทประกันชีวิตต่างๆ พยายามพัฒนาแบบของผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะช่องทางการขายผ่านธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันส์) การอำนวยความสะดวกในการขายกรมธรรม์ของบริษัทต่างๆ และการเข้าถึงสินค้าของผู้บริโภคมากขึ้น

นอกจากนี้ ธุรกิจประกันชีวิตยังเพิ่มช่องทางการขายผ่านร้านสะดวกซื้อ การพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับรายย่อยเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนผู้มีรายได้น้อย ผนวกกับมาตรการสนับสนุนของภาครัฐเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ในการหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของเบี้ยประกันชีวิต

สำหรับภาพรวมธุรกิจประกันวินาศภัยปีนี้ น.ส.อุษณีย์ คาดว่า จะกลับมาฟื้นตัวตามภาพรวมเศรษฐกิจที่กระเตื้องขึ้นรวมถึงแนวโน้มค่าสินไหมทดแทนที่ลดลง เนื่องจากหมดภาระการจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากเหตุการณ์น้ำท่วมไปแล้วในปี 2557 เช่นเดียวกับค่าเคลมสินไหมทดแทนในกลุ่มรถยนต์ที่เริ่ม ลดลงหลังสิ้นสุดโครงการรถคันแรกไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม บล.เอเซีย พลัส ยังให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มประกันภัยเท่ากับตลาด ถือเป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนที่ดีอีกกลุ่มหนึ่งในช่วงตลาดมีความผันผวนสูง แม้ว่าผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 2558 ถึงปัจจุบันแทบไม่แตกต่างจากสิ้นปี 2557 แต่ยังสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเฉลี่ยตลาดที่ลดลงไปกว่า 9% ในช่วงเดียวกัน โดยเลือกหุ้นบริษัท กรุงเทพประกันภัย (BKI) และบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มจากพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง พร้อมที่จะกลับมาเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้นเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว

ทั้งนี้ จากตัวเลขในช่วง 8 เดือนแรกที่ผ่านมา (ม.ค.ส.ค.) พบว่า ธุรกิจประกันชีวิตไทยสามารถทำเบี้ยรับรวมได้ 3.46 แสนล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.6% แยกเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ จำนวน 1.09 แสนล้านบาท เติบโต 6.1% และเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไป 2.37 แสนล้านบาท เติบโต 10.4% โดยมีอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ที่ 83%