posttoday

ฟิทช์ฯคงอันดับ ทางการเงิน ไทยประกันชีวิตที่ "A-"

31 สิงหาคม 2558

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล ของ ไทยประกันชีวิต ที่ "A-"

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล ของ ไทยประกันชีวิต ที่ "A-"

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (IFS) และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ ของบริษัท ไทยประกันชีวิต หรือ TLI ที่ ‘A-’ และ ‘AAA(tha)’ ตามลำดับและแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

สำหรับ ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตดังกล่าว สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำของบริษัท และระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของบริษัท อันดับเครดิตดังกล่าวยังสะท้อนถึงเครือข่ายธุรกิจ ที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทไทยประกันชีวิต เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศไทยในด้านเบี้ยประกันภัยรับรวม โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 12.5% ในปี 2557 และ 12.2% ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2558

ขณะที่ ความแข็งแกร่งทางการตลาดของบริษัทไทยประกันชีวิต ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายธุรกิจที่ดำเนินการมายาวนาน (long-established franchise) และเครือข่ายตัวแทนขายประกันที่ใหญ่และครอบคลุมทั่วประเทศ บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับสองในด้านเบี้ยประกันที่ขายผ่านตัวแทนขายประกันที่ประมาณ 20% ในปี 2557 ในขณะเดียวกันได้ทำการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายอื่นที่ไม่ใช่ผ่านตัวแทนขายประกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ต่ำอยู่ก็ตาม

บริษัทไทยประกันชีวิต มีอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์ (pre-tax return on assets) ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2553-2557) เฉลี่ยที่ 2.4% และ 3.1% ต่อปีในไตรมาสแรกของปี 2558 ซึ่งสะท้อนถึงผลการดำเนินงานและความสามารถในการทำกำไรที่ดีของบริษัท เบี้ยประกันรวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 14.6% (อุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 13.9%) ในปี 2557 โดย 96% ของเบี้ยประกันที่บริษัทได้รับทั้งหมดในปี 2557 เป็นเบี้ยต่ออายุ (regular premium) ซึ่งชี้ว่าบริษัทน่าจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ด้าน สัดส่วนของพอร์ทการลงทุนของบริษัทไทยประกันชีวิตนั้น ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากและยังมีความเสี่ยงที่ต่ำ โดยส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยตราสารหนี้ เงินสด และเงินฝากซึ่งรวมกันมีสัดส่วนประมาณ 85% ของพอร์ทการลงทุนรวม ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2558 นอกจากนี้ บริษัทยังคงมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนที่ระดับต่ำกว่า 10% ของพอร์ทการลงทุนรวม

ฟิทช์ ระบุว่า บริษัทไทยประกันชีวิต มีระดับเงินกองทุนอยู่ในระดับแข็งแกร่งอย่างมาก (“Extremely Strong”) ตามการประมาณการของ Prism Factor-Based Capital Model (Prism FBM) ซึ่งเป็นแบบจำลองของฟิทช์ที่ใช้ประเมินระดับความแข็งแกร่งในด้านเงินกองทุน โดยพิจารณาจากข้อมูลผลการดำเนินงานในปี 2557

นอกจากนี้  ฟิทช์คาดว่าผลการดำเนินงานในปี 2558 น่าจะยังคงสนับสนุนให้ระดับเงินกองทุนของบริษัทอยู่ในช่วงระดับแข็งแกร่งอย่างมากต่อไป โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่ง เป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ บริษัทมีสัดส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (Risk-based capital – RBC) ที่ 474% ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2558 ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรมและยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าระดับขั้นต่ำตามเกณฑ์ที่ 140% อยู่มาก

บริษัทไทยประกันชีวิต ได้เข้าซื้อหุ้นใน บริษัท ไทย คาร์ดิฟ ประกันชีวิต   หรือ TCLA เพิ่มอีก 50% ในเดือนเมษายน 2558 และ กลายเป็นผู้ที่ถือหุ้นทั้งหมด โดย TCLA เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 13 ของประเทศไทยในด้านเบี้ยประกันภัยรับรวม การซื้อหุ้นครั้งนี้น่าจะช่วย ในการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายอื่นที่ไม่ใช่ผ่านตัวแทนขายประกัน เนื่องจากบริษัทไทย คาร์ดิฟ ประกันชีวิต มีพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทสินเชื่อเช่าซื้อและบริษัทสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคขนากใหญ่หลายแห่งในประเทศไทย

นอกจากนี้ บริษัทไทยประกันชีวิต ยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับบริษัทเมจิ ยาซึดะ อินชัวร์รันส์  Meiji Yasuda Life Insurance Company (Meiji Yasuda Life; IFS: A/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) โดย Meiji Yasuda Life มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทไทยประกันชีวิตที่ 15%

ฟิทช์ มองถึง ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต อาจมีผลให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลและภายในประเทศถูกปรับลดอันดับ ได้แก่ การปรับตัวอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญของสถานะเงินกองทุนของบริษัท โดยที่สัดส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (RBC) ลดลงต่ำกว่า 250% เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง หรือการปรับตัวแย่ลงอย่างต่อเนื่องของความสามารถในการทำกำไรซึ่งสะท้อนได้จากอัตราส่วนของกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์ที่ต่ำกว่า 1%

หากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาว (Long-Term Local Currency IDR) ของประเทศไทยที่ ‘A’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ถูกปรับลดอันดับ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลของบริษัทไทยประกันชีวิต ก็น่าจะถูกปรับลดอันดับเช่นกัน

การปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทไทยประกันชีวิต ไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลของบริษัทอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวของประเทศไทย และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศปัจจุบันก็เป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดแล้ว