ทิพยประกันภัยกำไร 1,348 ล้าน

“ทิพยประกันภัย” โชว์กำไรสุทธิปี 57 กว่า 1,348.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 16.78% จากเบี้ยประกันภัยรับรวม 24,664.90 ล้านบาท 

นายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำปี 2557 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 ว่า บริษัทมีผลการดำเนินงานขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการแข่งขันรุนแรงและเศรษฐกิจประเทศชะลอตัว อันเนื่องจากปัญหาภายในประเทศ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจทั่วชะลอตัวทั่วโลก

โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 1,348.43 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 4.49 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิรวม 1,154.63 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 3.85 บาท คิดเป็นกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 193.80 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นในอัตราส่วน 16.78% สำหรับรายได้จากการรับประกันภัย ในปี 2557 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 24,664.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.10% ที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 24,157.29 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเบี้ยประกันอัคคีภัย 2,096.71 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยทางทะเลและขนส่ง 328.59 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรถยนต์ 4,808.40 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล 7,062.72 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด 10,368.48 ล้านบาท

นายสมพร กล่าวถึงสาเหตุที่ผลประกอบการบริษัทปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ว่า ทิพยประภัยได้ขยายธุรกิจสู่กลุ่มลูกค้ารายย่อย โดยผ่านเครือข่ายพันธมิตรของบริษัทฯ เช่น  Bancassurance ผ่านช่องทางของ ธนาคารกรุงไทยฯ และ ธนาคารออมสินฯ และการขยายงานผ่านช่องทาง Tesco Lotus และ Big C รวมถึงการเพิ่มจำนวนตัวแทน/นายหน้า ซึ่งในปี 2557 บริษัทฯ มีตัวแทน/นายหน้าประมาณ 8,500 คน ซึ่งสามารถพัฒนาเป็นตัวแทนคุณภาพและสำนักงานตัวแทนได้อีกกว่า 126 แห่ง โดยบริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ เพื่อสนองตอบและตรงตามความต้องการของลูกค้าถูกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะปีที่ผ่านมา บริษัทได้จัดแคมเปญใหญ่ TIP Plus เพื่อกระตุ้นตลาดธุรกิจประกันวินาศภัย ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดเบี้ยประกันภัยของบริษัทด้วย

ด้านฐานะความแข็งแกร่งของบริษัทนั้น ณ สิ้นปี 2557 ทิพยประกันภัยมีสินทรัพย์รวม 71,081.88 ล้านบาท หนี้สินรวม 65,748.07 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 5,333.81 ล้านบาท

"ทิพยประกันภัย เป็นบริษัทที่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ผลการดำเนินงานขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับลูกค้าตลอดมา ล่าสุดบริษัทยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทยอดเยี่ยม 1 ใน 200 บริษัทจดทะเบียนขนาดกลางจากนิตยสารฟอร์ปส์ เอเชีย ซึ่งจะช่วยตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าบริษัทเพิ่มขึ้นด้วย" นายสมพร กล่าว

นายสมพร กล่าวทิ้งท้าย จากผลการดำเนินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นจากผลประกอบการประจำปี 2557 ในอัตราหุ้นละ2.25 บาท โดยจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 0.50 บาท คงเหลือหุ้นปันผลที่ต้องจ่ายอีกหุ้นละ 1.75 บาท กำหนดจ่ายเงินปันผล ในวันที่  8 พฤษภาคม 2558