posttoday

"วิริยะ"คาดปีนี้เบี้ยประกันโตน้อยลง

26 มกราคม 2557

วิริยะตั้งเป้าเบี้ยนันมอเตอร์โต 10-15% ยอมรับชะลอตัว เหตุฐานเบี้ยใหญ่ เศรษฐกิจทรุดกำลังซื้อหด

วิริยะตั้งเป้าเบี้ยนันมอเตอร์โต 10-15% ยอมรับชะลอตัว เหตุฐานเบี้ยใหญ่ เศรษฐกิจทรุดกำลังซื้อหด

นายอานนท์ โอภาสพิมลธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ผู้แทน บริษัท วิริยะประกันภัย เปิดเผยว่า ปี 2557 บริษัทตั้งเป้าหมายเบี้ยรับประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ หรือ นันมอเตอร์ เพิ่มขึ้น 10-15% จากปี 2556 ที่มีเบี้ยนันมอเตอร์ 3,042 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.7% จากประกันภัยเบ็ดเตล็ดเป็นหลัก เช่น ประกันภัยอื่นๆ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันสุขภาพ รองลงมาจะเป็นประกันอัคคีภัย ประกันสินค้า

ทั้งนี้ ปีนี้จะเติบโตที่ชะลอตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากฐานเบี้ยมีขนาดใหญ่ขึ้นจากการเติบโตต่อเนื่องติดต่อกันมา 7 ปี

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง และการชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาเป็นปัจจัยลบที่กระทบกับทุกธุรกิจ ส่วนการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นเวลา 60 วัน มีผลกระทบต่อธุรกิจประกันภัยน้อย เพราะถ้ามองในแง่ของตลาด พื้นที่ชุมนุม และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพ.ร.ก.ฉุกเฉินจำกัดอยู่บางพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร

ขณะที่ พื้นที่ตลาดส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบ จึงยังสามารถทำการตลาดได้ตามปกติ ซึ่งลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นรายย่อย และ รายกลางๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม จึงไม่ต้องปรับเปลี่ยนแผนการตลาดอะไรมาก

อย่างไรก็ตาม การชุมนุมทางการเมือง ไม่ได้เป็นการกระตุ้นให้คนหันมาซื้อประกันภัยเพิ่มขึ้น เพราะ 2 เดือนที่ผ่านมา ยังไม่เห็นลูกค้ารายย่อยซื้อประกันที่ผิดปกติจากช่วงที่ผ่านมา อาจจะมีเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ที่สนใจซื้อประกันภัยคุ้มครองภัยจลาจล และก่อการร้ายเพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่ฐานลูกค้าหลักของบริษัท

นายอานนท์ กล่าวว่า จะต้องดูว่าการชุมนุมจะกระทบกับพื้นฐานภาพรวมทางเศรษฐกิจหรือไม่ หากกระทบในวงกว้างธุรกิจประกันภัยก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ เพราะทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ซึ่งขณะนี้เริ่มกระทบกับธุรกิจการท่องเที่ยวแล้ว จากการที่นักท่องเที่ยวกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยหากเดินทางเข้ามาเที่ยวในไทย ก็หันไปเที่ยวประเทศอื่นแทน
 
“จากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หลายบริษัทจะถือโอกาสที่ตลาดไม่โตจากเศรษฐกิจชะลอตัว หันมาทบทวนสินค้าเพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น พัฒนาระบบการให้บริการ พัฒนาบุคลากร เพราะไม่มีใครกล้าที่จะลุยตลาดหนักๆ ในภาวะที่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ยกเว้นธุรกิจที่ไม่พึ่งพาเศรษฐกิจมากนัก” นายอานนท์ กล่าว

แหล่งข่าวจากบริษัทไทยประกันภัย กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะออกสินค้าใหม่ แต่ต้องชะลอไปก่อน เพื่อให้สถานการณ์ทางการเมืองดีขึ้น จึงจะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เพราะถ้าทำตลาดช่วงนี้จะไม่ได้รับความสนใจจากตลาดเท่าไหร่นัก เพราะคนส่วนใหญ่จะให้ความสนใจและติดตามการเมือง ซึ่งได้เตรียมงบประมาณในการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านโทรทัศน์ประมาณ 100 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มทำตลาดปลายเดือนก.พ.นี้ ถึงตอนนั้นหวังว่าเหตุการณ์ทางการเมืองน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น