posttoday

"ซาลูน ธรรม"ต่อยอดโอกาสเอไอเอ

03 สิงหาคม 2556

ซีอีโอคนใหม่ของ เอไอเอ ประเทศไทย กับแนวทางรักษาการเป็นบริษัทประกันอันดับ 1 ของไทย

โดย...วารุณี อินวันนา

‘ซาลูน ธรรม’ นับเป็นชาวเอเชียคนที่ 2 ได้มานั่งตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอไอเอ ประเทศไทย โดยคนแรกคือ ‘ธัลดล บุนนาค’ ผู้นำท้องถิ่นคนแรก นอกนั้นถูกควบคุมโดยนักบริหารจาก สหรัฐอเมริกา และยุโรป

ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนตัวเบอร์ 1 จะเกิดการปรับ ย้าย โยก แปลง นโยบาย การทำงาน บ่อยครั้งที่เกิดคลื่นใต้น้ำภายใน แต่ด้วยวัฒนธรรมที่หยั่งรากลึก และผลประโยชน์ที่ยาวนาน ทำให้ตัวแทนที่นี่ไม่โยกย้ายไปไหนง่ายๆ เพียงแต่ยอดขายใหม่แผ่วลง

ต่างจากการเปิดตัว และ วิสัยทัศน์ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ของ ธรรม ซีอีโอคนใหม่เลือกที่จะย้ำว่า จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก แต่จะเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย มุ่งพัฒนาสิ่งที่มีอยู่แล้ว และมุ่งต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ ของเอไอเอ ในประเทศไทย และ ในประเทศอาเซียน 10 ประเทศ ที่ตอนนี้กลุ่มเอไอเอ ได้เข้าไปแล้ว 7 ประเทศ และรักษาการเป็นเบอร์ 1 ทำให้คู่แข่งตามมาได้ยากขึ้น และทำให้เอไอเอยิ่งใหญ่ต่อไป

นอกจากนี้ ยังใช้คำว่า รักตัวแทนที่มีอยู่ 7 หมื่นคน และย้ำคำนี้หลายครั้ง ทั้งที่เพิ่งเข้ามาได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น เป็นการประกาศตัวกลายๆว่าจะล้วงลูกงานตัวแทนอย่างที่อดีตผู้บริหารเคยทำ

บุคลิกของ ธรรม แตกต่างจากอดีตผู้บริหารคนก่อนๆ ดูกลมกลืนกับทีมงาน ไม่ใช่เพราะเป็นชาวเอเชียเหมือนกัน แต่น่าจะมาจากความเข้าใจสถานการณ์ขององค์กรในปัจจุบันที่กำลังอ่อนไหวกับการเปลี่ยนผู้บริหารคนใหม่ อาจจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่รับได้ยาก ดั่งที่เคยเกิดขึ้นในยุคของ รอน แวน โอเยน เป็นเหตุให้บริษัทแม่เอไอเอ ต้องเปลี่ยนตัวแม่ทัพกลางศึกเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่ ประวัติการทำงานไม่ยิ่งหย่อนกว่าผู้บริหารที่มาจากโลกตะวันตก และ สหรัฐอเมริกา เพราะเป็นผู้ที่คว่ำหวอดอยู่ในระบบการทำงานที่มีมาตรฐานสากลของบริษัทประกันชั้นนำของโลกมาตลอด 25 ปี และเข้ามาฝังตัวในเอเชียมานาน

หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นคือ การนำ ’นิวยอร์คไลฟ์’ ขึ้นมาเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน และไม่ธรรมดาด้วยเก้าอี้ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของกลุ่มอลิอันซ์  กับประธานบริหารระดับภูมิภาค ของกลุ่มเอซ ในฮ่องกง

สำหรับ เหตุผลที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก เพราะมองว่าองค์กรแห่งนี้มีตัวแทนที่มีประสิทธิภาพในการดูแลลูกค้า มีระบบการบริหารจัดการตัวแทน มีมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจที่ดีอยู่แล้ว และเป็นองค์กรที่ตัวแทนมีความจงรักภักดีมากที่สุด

“ผมเชื่อว่าเพียงแค่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง วิธีที่ถูกต้อง โดยคนที่ถูกต้อง ในจังหวะที่ถูกต้อง จะทำให้เราคว้าโอกาสที่สำคัญได้ ซึ่งทุกวันนี้เอไอเอประเทศไทย ดูแลลูกค้าถึง 10 ล้านกรมธรรม์ และให้บริการเคลมแก่ลูกค้าถึง 2 ล้านครั้งต่อปี ซึ่งเราต้องการให้บริการที่ดีที่สุด” ธรรม กล่าว

ธรรม บอกว่า กำลังเปลี่ยนวิธีการทำธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยผ่านระบบ ‘iPOS’ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่หันมาใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตกันมากขึ้น ซึ่ง iPOS จะเป็นการเสนอขายประกันผ่านสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ที่ปัจจุบันมีตัวแทนใช้วิธีการนี้แล้ว 3,000 คน และต้องการที่จะให้มีตัวแทนนำเสนอผ่านวิธีนี้ให้ได้ 1 หมื่นคนภายใน 1 ปี
เพราะโลกทุกวันนี้เข้าสู่ยุคดิจิตอลแล้ว การเสนอขายผ่าน iPOS จะมีความรวดเร็ว แม่นยำ ยืดหยุ่น ใช้เวลา 7 นาที ให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง และเซ็นตกลงซื้อประกันชีวิตได้ทางมือถือหรือแท็บเล็ต ลดการใช้กระดาษในช่วงขั้นตอนการเสนอขาย จากเดิมที่ต้องใช้เวลารอเอกสาร ส่ง กลับ ระหว่างตัวแทน ลูกค้า ประมาณ 2-3 วันกว่าจะปิดการขายและออกกรมธรรม์ได้ จะเหลือเวลาเพียง 1 วันเท่านั้น

“เร็วเกินไปที่จะประเมินว่าจะทำให้อัตราการเติบโตของยอดขายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าเดิมหรือไม่ และ ต้นทุนจะลดลงเท่าไหร่จากการไม่ต้องการใช้กระดาษในการนำเสนอขาย อย่างน้อยจะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี จึงจะประเมินได้” ธรรม กล่าว

ในการเปิดตัวของ ธรรม ในวันนั้นไม่ได้มาคนเดียว แต่มาพร้อมกับทีมงานผู้บริหาร สัตยา เทพบรรเทิง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต อนุชา เหล่าขวัญสถิตย์ ผู้จัดการทั่วไปและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน และ จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ซึ่งแต่ละคนได้ขึ้นมาแสดงความรู้และวิสัยทัศน์ในเวทีเดียวกันนี้ แตกต่างจากการเปิดตัวซีอีโอ คนก่อนๆ ที่จะโดดเด่นบนเวทีเพียงคนเดียว

ดั่ง ธรรม ต้องการสะท้อนให้เห็นว่า การมารับหน้าที่อันท้าทายในเอไอเอ ประเทศไทยนี้ จะก้าวเดินไปพร้อมกับทีมผู้บริหารคนอื่นๆ พร้อมที่จะก้าวไปด้วยกัน ส่งเสริม และ สนับสนุน ซึ่งกันและกัน เพื่อนำพาองค์กรหนีห่างคู่แข่งไปให้ไกล แต่จะนำพาองค์กรแห่งนี้ทิ้งระยะห่างคู่แข่งไปได้ไกลแค่ไหน ท่ามกลางการแข่งขันที่คู่แข่งต่างวิ่งเต็มกำลัง ไม่นานเกินรอก็จะได้เห็นผล