"นำสินฯ"ตุนทุนขยายธุรกิจ

นำสินประกันภัยวางแผนอีก 5 ปี เบี้ยแตะ 3,000 ล้านบาท ตุนเงินกองทุนรับการขยายงาน

นายสมบุญ ฟูศรีบุญ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท นำสินประกันภัย (NSI) เปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายจะขยายยอดขายประกันภัยให้ได้ประมาณ 3,000 ล้านบาทในปี 2560 จากปี 2555 ที่มีเบี้ยรับรวม 1,380.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากปี 2554 ส่วนปี 2557 บริษัทได้ตั้งเป้าหมายว่าน่าจะมียอดขายไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท

นายสมบุญ กล่าวว่า เพื่อรองรับการขยายตัว บริษัทเตรียมเงินกองทุน 1,185.7 ล้านบาทไว้รองรับความเสี่ยงที่จะเกิดจากการขยายงาน ประกอบกับบริษัทมีเงินค่าสินไหมทดแทนที่เกิดจากมหาอุทกภัย ที่เรียกคืนจากบริษัทประกันภัยต่อ 2 ราย ที่ยังไม่ได้รับชำระ เป็นจำนวน 454.6 ล้านบาท ถือว่าสูงพอสมควร จึงต้องกันเงินไว้รองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น

“ขณะนี้บริษัทได้ส่งผู้แทนไปเจรจากับบริษัทประกันภัยต่อที่ค้างชำระค่าสินไหมทดแทน 2 ราย ปรากฏว่า บริษัทประกันภัยต่อจำนวน 1 รายให้การตอบรับที่ดี ส่วนอีก 1 รายได้รับเรื่องไว้เพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป” นายสมบุญ กล่าว

นายสมบุญ กล่าวว่า หากไม่ได้รับชำระเงินจากบริษัทประกันภัยต่อที่เป็นลูกหนี้ บริษัทจะดำเนินการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสำหรับลูกหนี้ดังกล่าว ซึ่งบริษัทได้หารือกับบริษัทประกันภัยที่เป็นสมาชิกของสมาคมประกันวินาศภัยไทยแล้ว ได้ข้อสรุปว่า จะร่วมกันฟ้องร้องดำเนินคดีบริษัทประกันภัยต่อที่ไม่ชำระเงินจากอุทกภัย

แผนการขยายยอดขายให้ได้ 3,000 ล้านบาทในอีก 5 ปีนั้น นายสมบุญ กล่าวว่า จะเน้นทำตลาดประกันภัยรถยนต์เป็นส่วนใหญ่ โดยจะให้มีสัดส่วนเบี้ยประมาณ 85% ส่วนกรมธรรม์ประกันภัยประเภทอื่น หรือนันมอเตอร์ อยู่ที่ 15% ของยอดขายทั้งหมด เนื่องจากบริษัทมีความชำนาญในการรับประกันภัยรถยนต์ และจะทำการขายผ่านสถาบันการเงินในสัดส่วน 30% ของยอดขายทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะมาจากแหล่งงานอื่นที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสแรก บริษัท นำสินประกันภัย มีกำไรสุทธิ 57.22 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 4.12 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ขาดทุนสุทธิ 22.41 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 1.61 บาท

ก่อนหน้านี้ นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย แถลงว่า ภารกิจเร่งด่วนของสมาคมคือเร่งเคลียร์ค่าสินไหมทดแทนน้ำท่วมที่เหลืออยู่ประมาณ 8 หมื่นล้านบาทถึง 1 แสนล้านบาท จากยอดสินไหมทั้งหมดประมาณ 4.8 แสนล้านบาท ให้จบภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้